ชุมชนลูกองค์พ่อจตุคามรามเทพ พระโพธิสัตว์พังพระกาฬชุมชนลูกองค์พ่อจตุคามรามเทพ พระโพธิสัตว์พังพระกาฬ
กรกฎาคม 27, 2024, 09:30:35 AM*

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว:
การค้นหาขั้นสูง  
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มีดจตุคาม COPY มาให้ 1  (อ่าน 26863 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
tiradej
Full Member
***
กระทู้: 117



อีเมล์
« เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 07:50:35 PM »

ความจริงความลับที่ไม่เคยมีใครรู้เรื่อง “ มีดจตุคามรามเทพ ”
   สมาชิกอาศรมจตุคามรามเทพหลายท่านได้ติดตามดูเว็บไซท์พบว่าคุณสุวัฒน์ เหมอังกูร ซึ่งเคยเป็นผู้อยู่ใกล้ชิดในแวดวง “พระจตุคามรามเทพ” ภายหลังได้เกิดปัญหาเรื่องทำ “พระปิดตาพังพระกาฬแบบลอยองค์ปลอม” จึงหลบหน้าหลบตาหายไปนาน ได้หวนกลับมาในมาดใหม่ ตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์เจ้าสำนักทำทีว่ามีความศรัทธาเลื่อมใสต่อ “องค์จตุคามรามเทพ” อย่างล้นเหลือ ไปพบเห็น “รูปพระจตุคามรามเทพปลอม” ขนาดความสูง ๒ เมตร ที่ “ช่างเปี๊ยก” สร้างทิ้งตากแดดตากฝน เกิดความเวทนาจนน้ำตาไหลทนไม่ได้ต้องสร้าง”พระจตุคามรามเทพซุ้มเรือนแก้ว” เปิดให้จองในราคาองค์ละ ๘,๐๐๐ บาท เพื่อหาเงินไปสร้างศาลากันแดดกันฝนกันลมให้ “พระจตุคามรามเทพปลอม” ขึ้นที่ วัดอัมพวา อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้คนไปกราบไหว้บูชา
   นอกจากนั้น พระเกจิอาจารย์สุวัฒน์ ฯ ยังได้สร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ เปิดให้สั่งจองทางเว็บไซท์ ทราบว่ามีดขนาดเล็กราคาเล่มละ ๒,๐๐๐ บาท สมาชิกและผู้ที่สนใจพบเห็นก็บังเกิดความไม่สบายใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่า “องค์จตุคามรามเทพ” ได้เคยอนุญาตให้คุณสุวัฒน์ ฯ เป็นผู้สร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” รุ่นที่ ๒ และรุ่นที่ ๓ จึงไม่มีใครทราบว่าเป็นของเก่าที่ยังเหลืออยู่ หรือว่าทำเสริมขึ้นมาใหม่ หรือว่าตั้งตัวเป็นพระเกจิอาจารย์สร้างขึ้นมาเองโดยไม่ต้องขออนุญาตจากใคร จึงได้สอบถาม พล.ต.ท. สรรเพชร ธรรมาธิกุล และคุณสมชาติ ศรีรัตนารุ่งเรือง ทุกคนยืนยันว่าได้สร้างขึ้นโดยไม่ได้ขออนุญาตต่อ “องค์จตุคามรามเทพ” อย่างแน่นอน ทำให้สมาชิกและผู้ที่สนใจซึ่งไม่ค่อยจะไว้วางใจ คุณสุวัฒน์ ฯ อยู่แล้วเพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นอดีตพุทธพาณิชย์ที่ไม่เคยทอดทิ้งพฤติกรรมดั้งเดิม เชื่อว่าทำขึ้นมาเอง
   ปัญหาในเรื่องการสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” เท่าที่อ่านจากหนังสือ “ความจริงความลับที่ไม่เคยมีใครรู้เรื่องจตุคามรามเทพ” ทราบรายละเอียดในการสร้างเฉพาะ รุ่นที่ ๒ เท่านั้น “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ไม่มีใครรู้ว่าสร้างขึ้นอย่างไร จำนวนเท่าใด ยิ่งในเว็บไซท์ที่ คุณสุวัฒน์ ฯ เปิดให้สั่งจองมีทั้ง มีดขนาดเล็ก มีดขนาดกลาง คล้ายกับมีดของ “องค์จตุคามรามเทพ” แล้ว ยังมี “มีดจตุคามรามเทพ” ขนาดใหญ่ จึงทำให้สงสัยว่าเป็นของที่สร้างขึ้นมาใหม่ โดยลอกเลียน “มีดจตุคามรามเทพ” ที่ พล.ต.ท. สรรเพชร ธรรมธิกุล เป็นผู้ออกแบบ แล้วเอายันตร์หลวงปู่มาตอกในแบบตบตาให้คนเข้าใจว่าเป็น “มีดจตุคามรามเทพแบบใหม่”หรือว่าทำเสริมขึ้นมาอีก จึงขอให้ พล.ต.ท. สรรเพชร ธรรมธิกุล ช่วยตรวจสอบว่า “มีดจตุคามรามเทพ” ที่คุณสุวัฒน์ ฯ เปิดให้สั่งจองทางเว็บไซท์ เป็นมีดที่ “องค์จตุคามรามเทพ” อนุญาตให้สร้างขึ้นและทำพิธีปลุกเสกตามฤกษ์ หรือว่าเป็นของที่คุณสุวัฒน์ ฯ สร้างขึ้นเอง โดยไม่ได้ขออนุญาตต่อ “องค์จตุคามรามเทพ” แล้วนำไปให้หลวงปู่หลวงพ่อทำพิธีปลุกเสก อันเป็นวิธีการหลอกลวงตบตาของพวกพุทธพาณิชย์และอ้างว่าเป็น “มีดจตุคามรามเทพ” ของจริงของแท้ แต่ความจริงเป็น “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ไม่แตกต่างอะไรกับการสร้าง “พระจตุคามรามเทพซุ้มเรือนแก้วปลอม”
   สมาชิกมีความเห็นว่าพฤติการณ์ของคุณสุวัฒน์ เหมอังกูร ที่อวดอ้างว่าเป็นผู้ออกแบบ “พระจตุคามรามเทพนาคปรก” รุ่นนั้นรุ่นนี้ด้วยตนเอง เป็นผู้กำหนดฤกษ์ยามในการปลุกเสก ไปไปมามา คุณสุวัฒน์ ฯ อาจทำพิธีอัญเชิญ “องค์จตุคามรามเทพ” ให้มาประทับในร่างทรงเอง หรือว่าอาจร่วมกับ นายมานพ เกิดอุ่ม จัดตั้งสำนักจตุคามรามเทพขึ้นมาใหม่ สมาชิกทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า ถ้าปล่อยให้กลุ่มคนที่ทรยศเนรคุณต่อ “องค์จตุคามรามเทพ” รวมตัวกันจัดตั้งขบวนการฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมาเจอกันอย่างนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นศรัทธาใน “องค์จตุคามรามเทพ” “อาศรมจตุคามรามเทพ” และเกียรติภูมิชื่อเสียงของ พล.ต.ท. สรรเพชร ธรรมาธิกุล อย่างแน่นอน เห็นพ้องต้องกันว่ามีแต่ พล.ต.ท. สรรเพชร ธรรมาธิกุล เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่มีฤทธิ์เดชเพียงพอที่จะสยบขบวนการหากินจากการสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” และ “มีดจตุคามรามเทพปลอม” จึงเรียกร้องให้นำ “มาตรการเปิดไฟไล่ผี” มาจัดการกับกลุ่มคนจัญไรเหล่านี้ แล่เนื้อเถือหนังอย่าให้ได้ผุดได้เกิด เปิดเผยเบื้องหน้าเบื้องหลังให้สมาชิกและผู้ที่สนใจรู้ถึง ความจริงความลับอย่างถึงรากถึงแก่น โดยเรียบเรียงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของ “มีดจตุคามรามเทพ” เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าสร้างขึ้นมาแล้วกี่แบบกี่รุ่น จำนวนเท่าใด โดยเฉพาะที่คุณสุวัฒน์ ฯ กำลังเปิดให้จองทางเว็บไซท์ ขอให้ยืนยันว่าเป็น “มีดจตุคามรามเทพ” จริง หรือว่าปลอม เมื่อทุกคนทราบความจริงอย่างหมดเปลือกแล้ว สมาชิกทุกคนก็จะสบายใจใครอยากไปซื้อของโจร อยากได้ของอัปมงคลเสนียดจัญไรนำความฉิบหายมาสู่ตนเองและครอบครัวก็เชิญ
   ตอบข้อข้องใจสมาชิก
   ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณสมาชิกอาศรมจตุคามรามเทพ ที่ได้กรุณาติดตามความเคลื่อนไหวโลกไซเบอร์ ทำให้ทราบถึงการรวมตัวจับกลุ่มของคนที่เคยเป็นศิษยานุศิษย์ของ “องค์จตุคามรามเทพ” และเคยใกล้ชิดกับผม พยายามจัดตั้งขบวนการสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” ขึ้นมาใหม่ โดยอ้างว่าใครจะทำขึ้นก็ได้ ไม่ใช่ผมผูกขาดทำแต่เพียงคนเดียว “องค์จตุคามรามเทพ” ไม่ได้ปลุกเสกก็ไม่เป็นไร ถ้ามีมวลสารดีเจตนาดีพิธีขลังก็ศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน นี่แหละคือปรากฏการณ์ “ฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมาเจอกัน” ตามที่คนโบราณกล่าวไว้
   ความจริงเรื่องในทำนองนี้ผมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงอะไรมาก ถ้าสมาชิกและผู้สนใจกลับไปอ่านหนังสือ “ความจริงความลับที่ไม่เคยมีใครรู้เรื่องจตุคามรามเทพ” ที่ผมเรียบเรียงไว้ทบทวนดูอีกครั้งหนึ่ง ก็จะรู้ถึงประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการสร้าง “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” ว่ามีหลักการสำคัญประการใด ที่จะทำให้วัตถุมงคลเกิดความสมบูรณ์ครบถ้วนมีความศักดิ์สิทธิ์จริง แต่จะทบทวนเพื่อให้ทราบถึงหลักการโดยย่อ ดังนี้
   ประการแรกก็คือ วัตถุมงคลนั้น “องค์จตุคามรามเทพ” เป็นผู้บอกให้สร้างขึ้น ประการต่อมาก็คือขอให้ผมช่วยออกแบบให้สอดคล้องกับปรากฏการณ์ของดวงดาวสำคัญในท้องฟ้า ประการสุดท้าย “องค์จตุคามรามเทพ” ให้ผมเป็นผู้กำหนดฤกษ์แล้ว “องค์จตุคามรามเทพ” จะเป็นผู้ทำพิธีปลุกเสกไปตามฤกษ์ผานาทีที่กำหนดไว้
   แต่ภายหลังจาก นายมานพ เกิดอุ่ม อดีตร่างทรงร่วมกับทางโรงงานสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” โดยเลือกปลอมเฉพาะแบบพิเศษ เนื้อพิเศษ สีพิเศษ รุ่นพิเศษ หรือที่สร้างขึ้นน้อยหายากหลอกลวงขายให้สมาชิกและคนทั่วไปเสียเงินเสียทองกันมากมาย ทำให้ผมเห็นว่าปัญหาสาเหตุในการสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” ล้วนแต่เกิดจากอดีตร่างทรงและคนที่อยู่ในแวดวงใกล้ชิดทั้งสิ้น จึงยุติการประทับทรงและจัดนิทรรศน์การ “ความรู้สู่ความจริงแท้” เพื่อเปิดโปงให้สมาชิกและผู้ที่สนใจเห็นถึงการกระทำของนายมานพ เกิดอุ่ม อย่างหมดเปลือก เพื่อแสดงให้เห็นว่าผมและคุณสมชาติ ฯ ตลอดจนผู้อื่นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกรรมทำชั่วร้ายเหล่านั้นและไล่ นายมานพ ฯ ออกจากการเป็นร่างทรง
   ความจริงแล้ว ถ้าผมเป็นคนมีจิตใจชั่วช้าอยากร่ำอยากรวยเหมือนคนทรยศเนรคุณ ง่ายนิดเดียวก็คือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้ นายมานพ ฯ กับพรรคพวก ที่ร่วมกันสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” ทำกันไปโดยไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากและแอบผสมโรงอย่างลับ ๆ ส่งพวกหน้าม้าออกไปปล่อยข่าวว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่สุด หายากอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าไม่รีบซื้อหมดแล้วหมดเลย เหมือนกับการปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ก็จะเกิดการแย่งชิงกันซื้ออย่างอุตลุด ราคาพุ่งสูงขึ้นไปหลายเท่าตัว
   ความจริงไม่มีใครรู้ว่า “องค์จตุคามรามเทพ” ได้มอบให้ผมเก็บรักษา “พระจตุคามรามเทพ” แบบพิเศษเหล่านั้นไว้จำนวนเท่าไร แม้กระทั่ง คุณสมชาติ ฯ ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วร่วมมือกับ นายมานพ ฯ และทางโรงงาน สร้างเพิ่มขึ้นมาเก็บไว้ ฉวยโอกาสในขณะที่กระแสกำลังร้อนแรงราคาดี ปล่อยของออกมาขายผสมปนเปไปกับพวกฉ้อฉลในแบบน้ำขึ้นให้รีบตัก ผมก็คงร่ำรวยมหาศาลโดยไม่มีใครรู้ถึงกลโกงอันแยบยล แต่ถึงจะรู้ผมก็หลอกลวงว่าเป็นของแท้ที่ “องค์จตุคามรามเทพ” มอบให้ผมเก็บรักษาไว้ใครจะเถียงว่าไม่จริง หากินได้อย่างง่าย ๆ เหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ไปตะโกนโพนทะนาให้เขารู้ทำไม ผู้คนตื่นตกใจหยุดซื้อหยุดขายกลายเป็นของไม่มีราคา ทำไมผมไม่ทำ ไม่ใช่ผมไม่อยากได้เงินได้ทอง ไม่อยากร่ำรวย ไม่อยากเป็นเศรษฐี แต่ผมเป็นสัตว์มนุษย์ที่มีสติสัมปชัญญะรู้ดีรู้ชั่วว่าอะไรควรหรือไม่ควรอย่างไร ผมเป็นนายตำรวจใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาตลอดชีวิต จนกระทั่ง “เจ้าพ่อเรียกว่าลูกพี่” ถ้าผมหากินทุจริตร่วมกับพวกเจ้าพ่อมาเฟียก็ร่ำรวยขนาดไหน โดยไม่ต้องมาสร้างพระปลอมหลอกลวงต้มตุ๋นขายผู้คนซึ่งมีเจ้าทุกมากมาย เสี่ยงต่อการติดคุกอย่าง “เสี่ยอู๊ด” ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงทำไม ชั่วชีวิตการเป็นตำรวจของผมไม่เคยทุจริตคดโกง ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ผมไม่เคยไปด่าว่า สุนัขกินขี้ อีแร้งกินหมาเน่า เพราะรู้ว่าพวกสร้างพระปลอมมีความรู้สึกนึกคิดไม่ต่างอะไรไปจากพวกสัตว์เดรัจฉาน ธรรมชาติสร้างให้มีแต่เพียงว่าเป็นอาหารของมัน ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งโสโครก แต่ผมเป็นสัตว์มนุษย์ที่รู้ดีรู้ชั่ว ยึดมั่นอยู่ในความถูกต้องมาตลอดชีวิตจนเป็นที่ยอมรับว่า “ยอมหักไม่ยอมงอ” ซื่อสัตย์สุจริต จนกระทั่งเกิดปรากฏการณ์ “องค์จตุคามรามเทพ”มามอบหมายให้ผมกับ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช นายตำรวจที่มีความซื่อสัตย์สุจริตจนได้รับยกย่องว่าเป็นปูชนียบุคคลที่หาได้ยากยิ่งอีกคนหนึ่ง เรียกว่า “ไอ้หนวดสั้น” กับ “ไอ้หนวดยาว” ให้ร่วมกันสร้าง “หลักเมืองนครศรีธรรมราช” ที่ไม่เคยมีใครทำได้ จนกลายเป็นปูชนียสถานสำคัญของบ้านเมือง ผมขอเรียนให้สมาชิกทราบว่า “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” หรือ “พระจตุคามรามเทพ” เป็นเพียงผลพวงของการสร้างหลักเมืองเท่านั้น ถ้าไม่มีราคาก็คงไม่มีปัญหาอะไร
   หากถามผมว่าทำไมจึงต้องมาทะเลาะเพาะศัตรูกับพวกที่สร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” สร้าง “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ผมขอตอบว่า สาเหตุประการแรกก็คือ ผมถือว่าเป็นผู้สร้าง “หลักเมืองนครศรีธรรมราช” ซึ่งเป็นหลักชัยหัวใจของแผ่นดิน อันเป็นปูชนียสถานสำคัญแห่งหนึ่งของบ้านเมือง มหาชนให้ความเชื่อถือไว้วางใจช่วยเหลือผลักดันฝ่าอุปสรรคนานาจนกระทั่งประสพความสำเร็จ เป็นเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่ที่สุด ผมจะไปทรยศต่อมวลมหาชลได้อย่างไร ประการต่อมาผมได้รับมอบหมายไว้วางใจจาก “องค์จตุคามรามเทพ” ให้ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เสมือนดังเป็นตัวแทนของท่านในโลกมนุษย์ ในการทำพิธีประสิทธิประสาท “มีดจตุคามรามเทพ” อันศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ผม “องค์จตุคามรามเทพ” ลั่นวาจาไว้ว่า “กูคือมึง มึงคือกู” ถ้าเลือดไม่ตกน้ำตาไม่ไหลอย่าไปสาปแช่งใครเขา ผมจึงต้องรักษาสัจวาจาที่รับปากไว้กับ “องค์จตุคามรามเทพ” จะทำตัวเป็นคนชั่วช้าโกหกหลอกลวงสับปลับปลิ้นปล้อนหากินในทางทุจริตไม่ได้ ประการสุดท้าย ผมเป็นผู้ออกแบบ “พระจตุคามรามเทพ” ทุกขนาด ทุกรุ่น ทุกเนื้อ ทุกสี ตามที่”องค์จตุคามรามเทพ” มอบหมายไว้วางใจและเป็นผู้ควบคุมการสร้างจนกระทั่งเสร็จสิ้น ผมได้แจ้งจดลิขสิทธิ์ “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” ไว้ที่ กรมทรัพย์สินทางปัญญาถึง ๓๕ รายการ มีความมุ่งหวังจะให้ “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” หรือ “พระจตุคามรามเทพ” ที่ผมสร้างสรรค์ให้เป็นนวตกรรมใหม่ไม่ซ้ำแบบใคร เป็นศิลปกรรมล้ำค่าของแผ่นดิน เป็นอมตะยั่งยืนไปชั่วลูกชั่วหลาน ดังนั้น ใครก็ตามที่จงใจสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” ขึ้นมาหลอกลวงต้มตุ๋นเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า ผมถือว่าเป็นการทำลายอุดมการณ์ และลบหลู่ดูหมิ่น “องค์จตุคามรามเทพ” นอกจากสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้แล้ว ยังสามารถเปิดเผยความจริงให้สังคมลงโทษผู้กระทำความผิดไม่ให้ลอยหน้าลอยตาอยู่ในบ้านเมือง
   สมาชิกและผู้ที่สนใจคงได้เห็นชัดเจนแล้วว่าครั้งกระแสความนิยม “พระจตุคามรามเทพ” ร้อนแรงสุดขีด วัดวาอารามทุกหนทุกแห่งหน่วยงานต่าง ๆ สร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” แพร่ระบาดไปทุกหย่อมหญ้า ถ้าผมอยากได้เงินทองเหมือนอย่างขบวนการฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมาเจอกันดังกล่าวแล้ว เพียงแค่ผมไปนั่งเป็นประธานในพิธี หรือเป็นเจ้าพิธีปลุกเสกพระปลอม เหมือนอย่าง “หลวงหนุ่ย” “หลวงโชติ” หรือใครต่อใครที่ฉกฉวยโอกาสกันตอนนั้น ผมก็รวยเละเทะไปแล้ว “องค์จตุคามรามเทพ” ท่านคงล่วงรู้ว่าจิตวิญญาณของใครแข็งแกร่งขนาดไหน ไม่ยอมทำผิดทำชั่วไม่ทรยศคดโกงใคร ดังนั้น เมื่อนายมานพ ฯ ร่างทรง กับทางโรงงานร่วมกันสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” เลือกสร้างแต่เฉพาะแบบพิเศษเพื่อหลอกลวงขายสมาชิกไม่มีใครรู้ว่า “องค์จตุคามรามเทพ” ได้มอบ “พระจตุคามรามเทพ” แบบพิเศษ รุ่นพิเศษ เนื้อพิเศษ สีพิเศษ ที่เป็นของจริงของแท้ให้ผมเป็นผู้เก็บรักษาไว้มากมาย ผมรู้ดีว่า ถ้าออกมาเปิดเผยความจริงความลับทั้งหลายทั้งปวงให้สมาชิกและผู้สนใจรู้ว่า นายมานพ ฯ ร่วมกับโรงงานสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” หลอกขายให้สมาชิกและผู้ที่สนใจไปมากมาย ไม่มีใครสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรจริงอะไรปลอม เพราะทำมาจากโรงงานเดียวกัน “พระจตุคามรามเทพ” ของจริงของแท้แบบพิเศษของผมก็พลอยหมดราคาตามไปด้วย แต่ผมก็ยอมเพื่อให้พวกเนรคุณที่คดในข้องอในกระดูกพินาศฉิบหายไปทันตาเห็น โดยเชื่อว่าเมื่อทุกคนรู้ความจริงจะต้องเอาพระเก๊ไปคืน พวกคนชั่วจะต้องหลบลี้หนีหน้าไปหมดสิ้นสภาพไปทันที ไม่กล้าโผล่หัวออกมาหลอกลวงต้มตุ๋นอีกต่อไป
   ผมจึงขอให้สมาชิกกลับไปอ่านบทความเกี่ยวกับ “มาตรการเปิดไฟไล่ผี” ทบทวนอีกครั้งหนึ่ง จะได้รู้ชัดเจนว่า ผมได้อธิบายให้เห็นถึงกลวิธีทุจริตคิดไม่ซื่อของ นายมานพ ฯ จนต้องหลบหนีหายหน้าไป หมดสภาพความเป็นร่างทรง แต่สิ่งที่นึกไม่ถึงก็คือ นายมานพ ฯ ซึ่งเคยกล่าวหาว่า คุณสุวัฒน์ เหมอังกูร สมคบกับ “ช่างแฝด” ร่วมกันสร้าง “พระปิดตาพังพระกาฬแบบลอยองค์ปลอม” และสร้าง “พระจตุคามรามเทพนาคปรก ๗ เศียรเสริม” จนเป็นเหตุให้ คุณสุวัฒน์ ฯ หลบหน้าหลุดจากวงโคจรไป โกรธแค้นกันอย่างชนิดที่ว่า ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ เป็นศัตรูตลอดกาลไม่ว่าชาตินี้หรือว่าชาติไหน ผมและคุณสมชาติ ฯ รู้ดี แต่เราไม่พูดให้คนภายนอกรู้ เพราะว่าเห็นใจ คุณสุวัฒน์ ฯ อดีตบัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ ถือว่าเป็นผู้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีที่เข้ามาร่วมงานกัน เมื่อทราบว่า คุณสุวํฒน์ ฯ ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์แล้วก็รู้สึกเห็นใจ คุณสุวัฒน์ ฯ มากขึ้น อาจทำมาหากินในวงการพุทธพาณิชย์ที่ตนเองเคยถนัด ก็ไม่อยากไปพูดอะไรให้เกิดเสื่อมเสียชื่อเสียง เกิดข้อครหานินทา เพราะรู้ดีว่าในวงการเซียนพระที่อยู่กันในแบบโจรปล้นโจร ถ้ามีเรื่องระแวงแคลงใจเพียงนิดเดียว หมดสิ้นเครดิตหากินลำบากในทันทีครอบครัวจะเดือดร้อนลำบาก นึกไม่ถึงว่าคนที่เคยเป็นศัตรูถาวรจะหวนกลับมาคืนดีกัน ช่วยสั่งจองพระจตุคามรามเทพปลอมในแบบช่วยเหลือเห็นใจกัน ช่วยกระตุ้นยอดขายให้แก่กัน ไม่นึกว่าความหวังดีที่ผมและคุณสมชาติ ฯ มีต่อคุณสุวัฒน์ ฯ จะกลับกลายเป็นนิทานเรื่องชาวนากับงูเห่าไปได้
   ถ้าเขาหวนคิดย้อนหลังกลับไปถึงสมัยที่เริ่มมารู้จักกับผมใน พ.ศ. ๒๕๔๒ คุณสุวัฒน์ ฯ ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่อง “พระจตุคามรามเทพ” ผมเป็นผู้ป้อนข้อมูลให้ไปเขียนเผยแพร่ในนิตยสารต่าง ๆ เพราะเห็นว่ามีความสามารถในการเขียนหนังสือ จนกลายเป็นผู้รู้มีชื่อเสียงโดดเด่นขึ้นมาในวงการ และ “องค์จตุคามรามเทพ” ได้เปิดโอกาสอนุญาตให้เป็นผู้สร้าง “พระจตุคามรามเทพ” และ “มีดจตุคามรามเทพ” มากมายหลายรุ่น ได้รับส่วนแบ่งไปไม่น้อย ถ้าหากว่าจิตใจบริสุทธิ์ ไม่คดในข้องอในกระดูก ไม่หน้าไหว้หลังหลอก ไม่โลภมาก วิถีชีวิตหน้าที่การงานจะต้องเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่ง ไม่น่าจะมาดับลงอย่างหมดท่าอย่างนี้ “องค์จตุคามรามเทพ” และผมไปตั้งหิ้งพระให้ที่บ้าน รู้ว่าลูกชายเป็นโรคร้ายช่วยรักษาจนหาย ผมนึกไม่ถึงว่าคนมีเกียรติมีศักดิ์ศรีจะตกต่ำน่าเวทนาถึงขนาดนี้ หมดหนทางทำมาหากินจนด้วยการสร้าง “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีอาถรรพณ์ ถ้าให้โทษแล้วไม่มีหนทางที่จะหลบหนีให้พ้นได้ ตราบใดที่ยังต้องหายใจ ยังต้องดื่มน้ำ ยังต้องกินอาหาร อิทธิฤทธิ์พิษร้ายจะซึมเข้าไปกับระบบธาตุที่ละเล็กทีละน้อย เมื่อถึงเวลาชะตาขาดก็จะแผลงฤทธิ์พ่นพิษขึ้นทันที เห็นตัวอย่างมาแล้วมากมาย ผมไม่สงสารคุณสุวัฒน์ ฯ หรอก แต่ห่วงเมียและลูกของเขา ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็โดนหวยเข้าไปด้วย ต้องรับกรรมที่หัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ก่อขึ้น
   ดังนั้น เมื่อผมทราบจากสมาชิกว่า คุณสุวัฒน์ ฯ เปิดให้สั่งจอง “มีดจตุคามรามเทพ” รุ่นใหม่ โดยผ่านทางเว็บไซท์ ผมถือว่าเป็นความโชคดีของสมาชิกและผู้ที่ศรัทธาเลื่อมใสใน “องค์จตุคามรามเทพ” เพราะว่าผมรอโอกาสนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร แต่บังเอิญ คุณสุวัฒน์ ฯ เป็นผู้สร้างเงื่อนไขเร่งเวลาขึ้นมาเอง ด้วยการเปิดให้สั่งจอง “มีดจตุคามรามเทพ” สมาชิกเรียกร้องให้ผมเรียบเรียงเรื่อง “ความจริงความลับที่ไม่เคยมีใครรู้ในเรื่อง “มีดจตุคามรามเทพ” เพื่อให้ทุกคนทราบถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังและเรื่องราวอันน่าพิศวง เพื่อให้ทุกคนรู้กันอย่างหมดเปลือก การเปิดเผยความจริงและความลับ อาจทำให้รู้เช่นเห็นชาติและความจริงอาจส่งผลกระทบถึง คุณสุวัฒน์ ฯ อาจทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้พินาศไปหมดสิ้นไปก็ตาม คุณสุวัฒน์ ฯ จะมาโกรธผมไม่ได้ เพราะว่าสิ่งที่ผมนำมาเปิดเผยล้วนแต่เป็นความสัจจริง ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งใส่ความแต่อย่างใดและหากมีตรงไหนไม่ถูกต้อง คุณสุวัฒน์ ฯ มีสิทธิ์แก้ตัวได้อยู่แล้วผมคิดว่าข้อมูลเบื้องต้นที่ผมบอกกล่าวให้แก่ผู้ที่สนใจที่จะเช่าซื้อ “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ของ คุณสุวัฒน์ ฯ สามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะอย่างไร
   แต่ถ้าถามผมว่าควรซื้อหรือไม่ ผมแนะนำว่า ถ้าเป็นมีดธรรมดาที่วางขายตามแผงเหมือนมีดทั่วไป หากเป็นของดีราคาถูกก็น่าซื้อ แต่มีดที่ คุณสุวัฒน์ ฯ สร้างขึ้น อ้างว่ามีชนวนศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นอย่างนี้ หลวงปู่นั้นหลวงพ่อนี้มอบยันตร์และไม้ค้ำฟ้ามาให้ อวดอ้างว่าศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นอย่างนี้ ทำไปทำมากลับไปเอาชื่อ “องค์จตุคามรามเทพ” มาแอบอ้างและตั้งชื่อมีดของตนว่า “มีดจตุคามรามเทพ” เพื่อสร้างราคาและน่าละอายแก่ใจตนเอง เพราะว่า คุณสุวัฒน์ ฯ รู้ดีอยู่แก่ใจตนเองแล้วว่าถ้าจะสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ”จะต้องได้รับอนุญาตจาก “องค์จตุคามรามเทพ” เมื่อสร้างขึ้นเสร็จแล้ว “องค์จตุคามรามเทพ” จะเป็นผู้ทำพิธีปลุกเสกให้ตาม “ฤกษ์” เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์จริง แต่ “มีดจตุคามรามเทพ” ที่สร้างขึ้นในครั้งนี้ คุณสุวัฒน์ ฯ นอกจากไม่ได้ขออนุญาตจาก “องค์จตุคามรามเทพ” แล้ว ยังไปลอกเลียนแบบ “มีดจตุคามรามเทพ” อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ จึงเป็น “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ไม่ศักดิ์สิทธิ์ตามคำกล่าวอ้าง เป็นการจงใจที่จะหลอกลวงตบตาต้มตุ๋นลูกค้าในลักษณะฉ้อฉลหลอกลวงประชาชน ส่วนใครจะสั่งจองก็สุดแล้วแต่ใจ สำหรับผมมีหน้าที่ในการเปิดเผยความจริงความลับทั้งหลาย โดยการเรียบเรียงประวัติความเป็นมาของ “มีดจตุคามรามเทพ” ตามที่สมาชิกและผู้ที่สนใจเรียกร้อง เพื่อให้ทุกคนทราบดังต่อไปนี้
บันทึกการเข้า
tiradej
Full Member
***
กระทู้: 117



อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 07:52:23 PM »

มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๑
   ในเบื้องต้นผมขอเรียนให้สมาชิกทราบว่า “มีดจตุคามรามเทพ” เป็นวัตถุมงคลประเภท “เครื่องรางของขลัง” จำพวกศาสตราวุธ สร้างขึ้นสำหรับใช้ในการต่อสู้ป้องกันตัวเมื่อถึงคราวรบพุ่งตะลุมบอนกันในระยะประชิต เป็นอาวุธคู่ชีวิตประจำตัวของนักรบ ดังจะเห็นได้จากภาพแกะสลักที่ระเบียงปราสาทหินนครวัด ในประเทศเขมรเป็นรูปนายทัพผู้สูงศักดิ์ของ “กองทัพสยาม” ยืนโก่งธนูอยู่บนหลังช้างศึกเหน็บมีดสั้นไว้ที่เอวด้านขวา ภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ “มีดสั้น” ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญที่สุดที่ใช้รักษาชีวิตเมื่อถึงคราวต้องรบพุ่งประจัญบานกับข้าศึกในแบบตะลุมบอน ด้วยเหตุนี้กระบวนการสร้างมีดสั้น จึงต้องสร้างขึ้นด้วยกรรมวิธีที่สำคัญ ๓ ขั้นตอน คือ การคัดเลือกโลหะธาตุเหล็กจากแหล่งแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ แล้วนำมาผสมกับโลหะธาตุอย่างอื่น เพื่อให้มีความแข็งแกร่ง เหนียวแน่นและคมกริบดุจดังมีดโกน ประการต่อมาจึงให้ช่างตีมีฝีมือทำไปตามแบบ และทำด้ามมีด ฝักมีดประการสุดท้ายในการทำ “มีดศักดิ์สิทธิ์” ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์เร้นลับจะปกปิดเป็นความลับไม่แพร่งพรายให้ใครรู้เกี่ยวกับ “พิธีปลุกมีด” ไปตาม “ฤกษ์” ในวิชาโหราศาสตร์ชั้นสูง ซึ่งเป็นขั้นตอนพิเศษที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนสร้าง”มีดสั้น” ให้เป็น “เครื่องรางของขลัง” จึงเรียกกันว่า “มีดหมอ”
   ถ้าหากสมาชิกอ่านหนังสือ “ความจริงความลับที่ไม่เคยมีใครรู้เรื่องจตุคามรามเทพ” คงจะทราบว่าในการประทับทรง “องค์จตุคามรามเทพ” ที่บ้านพักของผมเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙ (บ้านพักผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช) “องค์จตุคามรามเทพ” ได้ขอให้ผมนำ “คันฉ่องสำริดสุริยัน-จันทรา” และ “ด้ามมีดงาช้างแดง” ของผมมาให้ดู ความจริงของโบราณสองสิ่งนี้คุณพ่อของผมมอบให้ผมเก็บรักษามานานแล้ว ผมไม่เคยบอกใครและไม่เคยให้ใครดู จึงไม่เคยมีใครรู้เห็นมาก่อน น่าอัศจรรย์ว่า “องค์จตุคามรามเทพ” ล่วงรู้ได้อย่างไร ผมทราบภายหลังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์สองอย่างนี้ ในอดีตชาติเป็นของ “องค์จตุคามรามเทพ” ตกทอดมาถึงผมเพราะว่า “องค์จตุคามรามเทพ” ต้องการให้ผมเป็นผู้เก็บรักษา เพื่อเป็นสื่อสัญญาณในการติดต่อระหว่างตัวผม กับ “องค์จตุคามรามเทพ” ไม่ให้ขาดหาย แม้ว่าผมจะไปรับราชการอยู่ที่ไหนก็ติดตามไปปกป้องคุ้มครองทุกแห่ง ครั้นถึงกำหนดเวลาที่จะต้องสร้าง “เสาหลักเมือง” จึงดลบันดาลให้ผมกลับมารับใช้แผ่นดิน
   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ด้ามมีดสั้นประจำตัวของ “องค์จตุคามรามเทพ” ใช้เป็นอาวุธออกศึกสงครามสร้างบ้านสร้างเมืองของเราให้ยิ่งใหญ่อยู่ในคาบสมุทรอินโดจีนในอดีต มีประวัติความเป็นมาเกี่ยวข้องกับชื่อของบ้านเมืองเมื่อหลายพันปีก่อน แต่ในปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ความจริง จึงอยากให้ผมเรียบเรียงประวัติศาสตร์ บอกเล่าเรื่องราวถึงประวัติความเป็นมาของชาติ โดยผ่านกระบวนการการสร้าง “มีดจตุคารามเทพ” ต่อจากนั้น “องค์จตุคามรามเทพ” ได้เล่าเรื่อง “ด้ามมีดงาช้างแดง” ให้ฟังว่า
   เมื่อครั้งเริ่มก่อตั้งอาณาจักรพระราชบิดาของ “องค์จตุคามรามเทพ” ได้ทำสงครามแผ่ขยายอาณาเขตออกไปกว้างไกล พระองค์มีช้างศึกคู่บารมีเชือกหนึ่ง เป็นพระยาช้างสารที่มีรูปร่างสูงใหญ่พละกำลังมหาศาลยิ่งกว่าช้างทั้งหลาย จู่โจมบุกเข้าทะลายประตูเมืองป้อมค่ายของข้าศึกพังราบมานับไม่ถ้วน ช้างศึกเชือกนี้มีลักษณะประหลาดพิเศษ ก็คือ มี “งาสีแดง” ปรากฏกิตติศัพท์เล่าลือไปยังนานาประเทศ ชาวต่างชาติจึงเรียกบ้านเมืองของเราตามชื่อของพระยาช้างศึกนี้ว่า
“เมืองงาแดง”
   คำว่า สีแดง ในภาษาไทย ตรงกับคำว่า “ตามพร” หรือ “ตัมพะ” ในภาษาอินเดีย จากประวัติความเป็นมาของประเทศศรีลังกา หรือ อาณาจักรสิงหล กล่าวว่า เมื่อครั้งผู้นำของชาวศรีลังกาลงเรืออพยพข้ามทะเลจากอินเดียมาขึ้นที่ชายฝั่งเกาะลังกา ในขณะที่ย่างก้าวขึ้นฝั่งเกิดลื่นเซถลาล้มลง ใช้ฝ่ามือค้ำยันไว้ ทำให้ฝ่ามือทั้งสองข้างติดสีของพื้นดินซึ่งเป็นสีแดง จึงขนานนามบ้านเมืองของตนว่า “เมืองฝ่ามือแดง” ในภาษาอินเดียมีชื่อว่า “ตัมพะปัณนิ”
   ในทำนองเดียวกันเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศอินเดียในอดีต เมื่อถึงฤดูกาลที่แห้งแล้งอากาศร้อนจัด จะบังเกิดลมพายุทะเลทราย ลมพายุทะเลทรายจะพัดหอบเอาฝุ่นละอองสีชมพูปกคลุมท้องฟ้าและแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ดุจดังอนุทวีปของอินเดีย จึงเรียกชื่อบ้านเมืองของตนว่า “ชทพูทวีป”
   พงศาวดารจีนสมัยราชวงศ์ถัง กล่าวว่า เจ้าชายจิตรเสน ราชโอรสของกษัตริย์เขมรที่เคยเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรเก่าแก่ที่สุดมีชื่อในภาษาจีนว่า “ฟูนันก๊ก” เทียบกับภาษาอินเดียว่าหมายถึง “อาณาจักรสุวรรณภูมิ” ชนชาวเขมรนับถือศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย นิยมสร้าง “ศิวลึงค์” ขึ้นกราบไหว้บูชา เจ้าชายเขมรผู้แกล้วกล้าสามารถยิ่งพระองค์นี้ อ้างว่า พระองค์เป็นพระราชนัดดา (หลาน) ของมหาราชแห่งฟูนัน จึงมีสิทธิ์ในราชสมบัติทางฝ่ายพระราชมารดา จึงยกกองทัพบุกเข้าโจมตี อาณาจักรฟูนัน แตกพ่าย กองทัพเขมรบุกเข้ามายึดครองบ้านเมืองและสร้าง “ศิวลึงค์” ประดิษฐานไว้ในเทวสถานทุกแห่ง วันเวลาผ่านมาช้านาน ไม่มีใครรู้ความเป็นมาที่แท้จริงของ “เมืองงาช้างแดง” ในภาษาพื้นเมือง ตรงกับภาษาอินเดียว่า “สำคัญผิดคิดว่า “เมืองตามพรลิงค์” หมายถึง “เมืองศิวลึงค์สีแดง” แต่จากการขุดค้นทางโบราณคดีในคาบสมุทรภาคใต้ของประเทศไทย มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นบ้านเมืองที่นับถือพุทธศาสนามานานแล้ว ไม่เคยนับถือศาสนาพราหมณ์มาก่อน ไม่เคยเคารพบูชา ศิวลึงค์
   ต่อมา เมื่อพระยาช้างงาแดง ชราภาพหมดสิ้นอายุขัยล้ม จึงได้นำงาแดงมาแกะสลักเป็นรูป พระพิฆเณศวร์ประทับนั่งในท่าขี่คอมหาภูติ ทำเป็นด้ามมีดประจำตัวของ “องค์จตุคามรามเทพ” ใบมีดแต่เดิมสร้างด้วยเหล็กผสมตามสูตรโบราณมีความยาวประมาณ ๑ ศอก วันเวลาผ่านมาช้านานได้ชำรุดหลุดหักสูญหายไป หากลับคืนมาไม่ได้ แล้ว ยังคงเหลืออยู่แต่ “ด้ามงาช้างแดง” ที่ผมเป็นผู้เก็บรักษาไว้
   “องค์จตุคามรามเทพ” เล่าให้ฟังว่า “ด้ามมีดงาช้างแดง” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีอาถรรพ์ หากไปตกอยู่ในมือของผู้ที่ไม่ใช่เชื้อสาย หรือไม่ใช่ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลรักษา จะบังเกิดความวิบัติมีอันเป็นไป บันดาลให้ผู้นั้นเกิดความคลุ้มคลั่งจนเป็นบ้าหรือไม่ก็อายุสั้น เพื่อให้ “ด้ามมีดงาช้างแดง” เปลี่ยนมือไปยังผู้เก็บรักษาที่เหมาะสม “องค์จตุคามรามเทพ” กล่าวว่า
   “เห็นหรือยัง เมื่อตกมาอยู่ที่มึง ชีวิตมีแต่เจริญก้าวหน้าไม่มีตกต่ำ”
   ผมฟังเรื่องราวในแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่รู้ว่าชีวิตที่เกิดมาย่อมเป็นไปตามโชควาสนาฟ้าดินลิขิต ถ้าหากว่าเป็นความต้องการของ “องค์จตุคามรามเทพ” ให้ผมเป็นผู้รับภาระในการสร้าง “หลักเมืองนครศรีธรรมราช” ร่วมกับ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช และเป็นผู้ประกาศเกียรติประวัติของ “พระยาช้างงาแดง” ซึ่งเคยมีบุญคุณต่อบ้านเมืองอย่างใหญ่หลวง ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ให้ได้ดีที่สุด “องค์จตุคามรามเทพ” จึงให้ผมเป็นผู้ออกแบบมีดสั้นสมัยโบราณที่เรียกกันว่า “มีดขอช้าง” เพื่อสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” ขึ้นมาใหม่ โดยกำหนดให้ทำขึ้นเพียง ๒ ขนาด คือ
   มีดจตุคามรามเทพ ขนาดใหญ่ ให้ทำใบมีดมีความยาวเท่ากับ ๑ ศอกของผม ๑ เล่ม
   มีดจตุคามรามเทพ ขนาดกลางให้ทำใบมีดมีความยาวเท่ากับครึ่งศอกของผม ๗ เล่ม
   ผมพยายามสืบหาช่างตีมีดมือดีที่เมืองนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง แต่หาไม่ได้ มีอยู่แค่ช่างตีมีดพื้นบ้าน แต่ก็ไม่มีใครรับทำ เพราะว่าติดขัดเงื่อนไขเกี่ยวกับพิธีกรรมยุ่งยากซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องไปตั้งเตาเผาเหล็กและตีมีดที่เชิงตะกอนในป่าช้า แต่บังเอิญในตอนนั้นมีศิษย์หลักเมืองคนหนึ่ง กล่าวว่าเป็นอาจารย์ทางไสยศาสตร์ ผมไม่ทราบชื่อจริง คงทราบแต่ว่าชื่อ อาจารย์จุก มิตรกูล รับอาสากับผมว่าจะช่วยตี “มีดจตุคามรามเทพ” ให้เสร็จทันกำหนดเวลา โดยไม่คิดค่าจ้างอะไรทั้งสิ้น ผมจึงให้อาจารย์จุกพบกับ “องค์จตุคามรามเทพ” เมื่อได้รับอนุญาตแล้วผมจึงมอบรูปมีดที่ได้ออกแบบไว้ให้อาจารย์จุก กับสมัครพรรคพวกไปช่วยกันตีมีด “องค์จตุคามรามเทพ” เร่งรัดให้รีบทำให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด บอกเล่าให้ผมทราบว่า    “คนมีอำนาจยิ่งใหญ่ในแผ่นดินจะมาขอความช่วยเหลือจากมึง”
   เนื่องจาก อาจารย์จุก กับพวกเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่ช่างตีมีดมืออาชีพ แต่ได้พยายามตีจนสุดฝีมือที่จะตีมีดให้เป็นไปตามแบบที่กำหนด แม้ว่ารูปทรงไม่สวยงามเป็นที่น่าพอใจ เมื่อตกแต่งด้วยตะไบให้พื้นผิวเหล็กเรียบลื่นไหลไปตามรูปทรง ก็ถือว่าเป็นมีดขอช้างที่ถูกต้องตามแบบ คงเหลือแต่ “มีดจตุคามรามเทพ” ขนาดใหญ่ความยาวเท่ากับ ๑ ศอกของผม แม้ว่าผมจะนำมาตกแต่งให้เข้ารูปอย่างไรสันมีดที่บางพื้นผิวก็ไม่เรียบสนิท ทำอย่างไรก็ไม่อาจสวมเข้ากับ “ด้ามมีดงาช้างแดง” ให้กลมกลืนได้ จึงกลึงไม้ตะเคียนทองหลักเมืองมาทำเป็นด้ามสวมกับใบมีดให้พอใช้การได้ไปก่อน หลังจากนั้น จึงให้อาจารย์มนตรี จันทพันธ์เป็นผู้ตอกยันตร์ลงบนใบมีดทั้งสองด้าน เสร็จสิ้นแล้วต้องนำใบมีดไปแช่ไว้ในน้ำผึ่งรวงบริสุทธิ์อยู่เป็นเวลานาน ๑ เดือน จึงนำออกมาลับคมและชำระล้างด้วยน้ำมนตร์ที่ “องค์จตุคามรามเทพ” ได้จัดเตรียมไว้ จนกระทั่งใบมีดคมกริบเหมือนใบมีดโกน แล้วจึงทำพิธีปลุกเสกตามฤกษ์ผานาทีที่กำหนดไว้
   ในขณะที่ทำพิธีปลุกเสกฝนตกลงมาอย่างหนัก ในช่วงฤดูมรสุมฝนตกต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว น้ำป่าจากเทือกเขาหลวงไหลลงมาท่วมไร่นาบ้านเรือนเจิ่งนองจนกลายเป็นทะเลไปทุกแห่ง ผมเห็นว่าผู้คนกำลังเดือดร้อนยุ่งยากจากน้ำท่วม ถ้าหากว่า “มีดจตุคามรามเทพ” ที่สร้างขึ้นและกำลังทำพิธีปลุกเสกอยู่นั้นถ้าศักดิ์สิทธิ์จริงก็ควรแสดงอิทธิฤทธิ์ช่วยชาวบ้านให้พ้นจากความเดือดร้อนลำบาก ผมจึงขอให้ “องค์จตุคามรามเทพ” แสดงอภินิหารให้เห็นประจักษ์ “องค์จตุคามรามเทพ” หยิบมีดขนาดใหญ่ที่มีความยาวเท่ากับ ๑ ศอกของผมมาถือไว้ แล้วถามผมว่า
   “มึงจะเอาอย่างนั้นหรือ”
   ทันใดนั้น ได้ปักมีดจมลงไปในพื้นดิน สิ่งมหัศจรรย์เหลือเชื่อเกิดขึ้นในทันที ทุกคนที่อยู่ในพิธีเห็นกับตาตนเองว่า ฝนที่กำลังตกหนักเหมือนดังฟ้าจะถล่มทะลายหยุดกึกก้องอย่างไม่น่าเชื่อ น้ำที่เคยเจิ่งนองไหลหลากไปทั่ว ไหลลงทะเลอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วข้ามคืนก็หมดสิ้น
   หลังจากนั้นไม่นาน มีข่าวว่าได้เกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นระหว่าง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายรัฐบาล กับ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก อดีตผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในราชอาณาจักร ซึ่งมีอำนาจเหนือผู้บัญชาการทั้ง ๓ เหล่าทัพ ตำรวจ ๑กรม และข้าราชการพลเรือนทั่วประเทศ ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นคาดหมายกันว่าคงจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น อยู่มาวันหนึ่งนายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ไปหาผมที่บ้านพักกระซิบบอกว่า
   “ป๋าเปรม” ขอให้ช่วยเหลือหน่อย
   ผมจึงเชิญท่านรัฐมนตรีให้ไปพบปะพูดคุยและขอความช่วยเหลือต่อ “องค์จตุคามรามเทพ” โดยตรง ในที่สุดได้จัดทำพิธีกันขึ้นในวิหารหลวงวัดพระธาตุ ซึ่งผมจะไม่เล่ารายละเอียดในที่นี้ หลังจากนั้นไม่นานผมทราบว่า พลเอกอาทิตย์กำลังเอก ก็ได้ไปขอให้อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุ ประกอบพิธีกรรมในวิหารหลวง นัยว่าเพื่อลบล้างอาถรรพ์ที่ผมกับ “องค์จตุคามรามเทพ” ทำให้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เสื่อมสิ้นไป แต่ในที่สุดการต่อสู้แย่งชิงความเป็นใหญ่ทางการเมืองระหว่างผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ในแผ่นดินทั้งสองจบลง พระอาทิตย์อัสดงเหนือแผ่นดินลงเหนือแผ่นดินนครศรีธรรมราช เป็นความพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่สุดในชีวิต นอกจากถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งแล้ว ยังประสบชะตากรรมต้องหลบหนีลี้ภัยไปพำนักอยู่ที่เกาะฮาวายอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเดินทางกลับประเทศไทยในภายหลัง ก็หมดสิ้นอำนาจวาสนายุติบทบาททางการทหาร เก็บเนื้อเก็บตัวเงียบหายไป
   อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุ ซึ่งเคยทำพิธีให้แก่นายทหารใหญ่ ประสพอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำบนภูเขาหลวง คนขับรถเสียชีวิต อดีตเจ้าอาวาสได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกคอแตกไปกดทับเส้นประสาทรักษาไม่หาย คอเอียงเหมือนคนพิการ พูดจาไม่ชัดและมีน้ำลายไหลยืดอยู่ตลอดเวลา ทนทุกข์ทรมานอยู่หลายปี จนกระทั่งเสร็จสิ้นพิธีศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชไปแล้วไม่นาน ก็ถึงแก่มรณภาพหมดสิ้นทุกข์เวทนา
มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๒
   ในขณะที่การสร้าง “หลักเมืองนครศรีธรรมราช” กำลังจะเสร็จสิ้น “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” ที่ผมสร้างขึ้นจากการจำลองโครงสร้างจักรวาล นำมาประติมากรรมเป็นศิลปกรรมในรูปของวัตถุมงคลแบบใหม่ ที่สามารถอธิบายให้เข้าใจถึงความศักดิ์สิทธิ์ได้ตามหลักแห่งเหตุผลของศาสตร์แห่งจักรวาล บังเกิดปาฏิหาริย์เลื่องลือไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นักเล่นพระในกรุงเทพ ฯ เริ่มให้ความสนอกสนใจลงไปกว้านซื้อมาขายหากำไร ในช่วงเวลานั้นราวปี พ.ศ. ๒๕๔๒ คุณสุวัฒน์เหมอังกูร คุณประภัสร ธีระพันธุ์ และคุณสุธรรม ว่องวีระ ได้ไปติดต่อขอพบผมเพื่อสอบถามถึงประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับการสร้างวัตถุมงคลหลักเมือง
   บังเอิญในขณะนั้นผมมีโครงการจะสร้างเทวรูป “พระจตุคามรามเทพประทับนั่งเหนือบัลลังก์พระยานาค ๙ เศียร” ขนาดความสูง ๑๐๙ เซ็นติเมตร ขึ้นด้วยศิลปะสมัยศรีวิชัยประกอบลวดลายเครื่องประดับที่งดงามอลังการ เพื่อให้แตกต่างไปจากพระพุทธรูป และมีความประสงค์จะสร้าง “พระปิดตาพังพระกาฬแบบลอยองค์” ซึ่งมีประวัติการได้มาอย่างแสนสุดพิสดาร ให้เหมือนองค์ต้นแบบ แต่ยังหาช่างปั้นหุ่นและช่างหล่อโลหะที่มือดีไม่ได้
   คุณสุวัฒน์ เหมอังกูร แนะนำว่ามีช่างปั้นหุ่นฝีมือดีมากคนหนึ่งชื่อ “ช่างแดง” และเป็นเจ้าของโรงหล่ออยู่แถวพรานนก และมีช่างถอดแบบพระเครื่องมีชื่อเสียงคนหนึ่งชื่อว่า “ช่างแฝด” สามารถสร้าง “พระปิดตาพังพระกาฬ” ให้ประณีตสวยงามเหมือนต้นแบบได้ ผมจึงมอบหมายให้ คุณสุวัฒน์ ฯ ไปติดต่อว่าจ้าง พร้อมกับได้มอบพระต้นแบบไปดูเป็นตัวอย่าง แต่ช่างทางภาคกลางส่วนใหญ่เคยสร้างแต่พระพุทธรูป หรือรูปหลวงพ่อ มีความชำนาญเฉพาะศิลปะไทย ไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ “ศิลปะสมัยคุปตะ” “ศิลปะสมัยศรีวิชัย” ที่งดงามของภาคใต้ ความมีรสนิยมทางศิลปกรรมที่แตกต่างกัน ทำให้ช่างไม่สามารถปั้นหุ่นตามที่ต้องการได้ ต้องเสียเวลาแก้ไขอยู่เป็นเวลานาน จนในที่สุดต้องเอาพระต้นแบบไปให้ดูเป็นตัวอย่าง และคอยควบคุมให้ทำไปตามแบบจนกระทั่งเสร็จสิ้น ไม่ทันเวลาที่จะนำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งเสด็จแทนพระองค์ไปทรงทำพิธีเปิดศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๓
   นอกจากการสร้างรูป “พระจตุคามรามเทพประทับนั่งเหนือบัลลังก์พระยานาค ๘ เศียร” และ “พระปิดตาพังพระกาฬแบบลอยองค์” ดังกล่าวแล้ว ผมขอให้ คุณสุวัฒน์ ฯ ช่วยสืบหาช่างทำมีดอาชีพที่มีฝีมือเพื่อสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” ให้มีรูปทรงสวยงามตามความตั้งใจ คุณสุวัฒน์ ฯ ทราบว่า นายบุญเติม สิทธิไพศาล หรือ โกเนี้ยว เป็นช่างทำมีดฝีมือดีอยู่ที่ อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ชาวญี่ปุ่นเคยมาว่าจ้างให้ตีดาบซามูไร เพื่อนำไปขายในต่างประเทศ ผมจึงมอบหมายให้คุณสุวัฒน์ ฯ ติดต่อว่าจ้างให้สร้าง “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๒” ดังปรากฏเรื่องราวอยู่ในหนังสือ “ความจริงความลับที่ไม่เคยมีใครรู้เรื่องจตุคามรามเทพ” ภาคผนวกว่าด้วย “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๒๙-๑๕๕๐” ลำดับที่ ๑๕ เรื่อง “มีดจตุคามรามเทพ” แต่รายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างอยู่ในหนังสือ “จตุคามรามเทพ พ.ศ. ๒๕๔๓-๑๕๔๔” เล่มปกสีฟ้ากล่าวถึงจำนวนการสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๒” ไว้ว่า
๑. มีดขนาดเล็ก ๒๒ เล่ม ชนิดด้ามงาช้าง ฝักไม้ตะเคียนทอง ๗ เล่ม ด้ามไม้ฝักไม้ ๑๕ เล่ม
๒. มีดขนาดกลาง ๕ เล่ม ชนิดด้ามงาช้าง ฝักไม้ตะเคียนทองทั้งหมด
๓. มีดขนาดใหญ่ ๕ เล่ม ชนิดด้ามงาช้างแกะสลักเป็นรูปเสาหลักเมือง ฝักไม้ตะเคียนทอง ๒ เล่ม ด้ามไม้ ฝักไม้ตะเคียนทอง ๓ เล่ม
   มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๒ รวมทั้งสิ้น ๓๒ เล่ม
   การสร้างวัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราชในครั้งนั้น คุณสุวัฒน์ เหมอังกูร และคุณประภัสร ธีระพันธ์ รับปากกับ “องค์จตุคามรามเทพ” ว่าจะเป็นผู้หาเงินทุนมาดำเนินการทั้งหมด เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วเงินที่เหลือจะอุทิศให้แก่หลักเมืองนครศรีธรรมราช ดังนั้น เมื่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว ได้นำไปทำพิธีปลุกเสกที่ เกาะเภตรา อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเกาะรังนกนางแอ่นของ คุณสมชาติ ศรีรัตนารุ่งเรือง ที่ได้รับสัมปทาน ด้วยเหตุนี้วัตถุมงคลทั้งหลายที่สร้างขึ้นในครั้งนั้นจึงเรียกกันว่า “รุ่นเกาะเภตรา”
   ในการสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่๒” ซึ่งเป็นมีดขนาดใหญ่ ด้ามงาช้างแกะสลักเป็นรูปเสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช ผมเห็นว่ามีฝีมือแกะสลักมีความละเอียดประณีตงดงาม แสดงถึงความเชี่ยวชาญของช่าง จึงบอกให้ คุณสุวัฒน์ ฯ ติดต่อว่าจ้างให้แกะสลักด้ามมีดไม้ตะเคียนทองเป็นรูป เสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช แต่ปรากฏว่าช่างแกะสลักคนนั้นถึงแก่ความตาย ภายหลังแกะสลักด้ามมีดงาช้างเสร็จสิ้นไม่นาน สงสัยกันว่าน่าจะเกิดจากไปรับจ้างแกะสลักด้ามมีดงาช้างเป็นรูป เสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยไม่ได้บอกกล่าวขออนุญาตต่อ “องค์จตุคามรามเทพ” ให้ถูกต้อง จึงถูกลงโทษ
บันทึกการเข้า
tiradej
Full Member
***
กระทู้: 117



อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 07:55:03 PM »

มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓
   ตามที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้นว่า “องค์จตุคามรามเทพ” มีความประสงค์ให้บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาในอดีตของ “อาณาจักรสุวรรณภูมิ” หรือที่พงศาวดารจีนเรียกว่า “ฟูนันก๊ก” โดยผ่านกระบวนการสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” และ “ด้ามมีดงาช้างแดง” โดยผมเป็นผู้ออกแบบรูป “มีดขอช้าง” เหมือนอย่างของ “องค์จตุคามรามเทพ” ในอดีต เพื่อเป็นศิลปกรรมของแผ่นดินสืบไปชั่วลูกหลาน
   จุดประสงค์สำคัญก็คือ ต้องการแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” กับ “วัตถุมงคลของพุทธศาสนา” เพื่ออธิบายให้เห็นว่าวัตถุมงคลหลักเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ให้เป็นประโยชน์แก่การดำรงชีวิต ความต้องการของ “ทางโลก” ซึ่งตรงกันข้ามกับความมุ่งหมายในการหลุดพ้นจากวัฏสงสารของฝ่ายศาสนจักรอันเป็นความต้องการใน “ทางธรรม” สิ่งที่แสดงออกให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนที่สุดก็คือ “มีดสั้น” ซึ่งเป็นอาวุธประจำกาย ใช้สำหรับต่อสู้ป้องกันตัวในระยะประชิต โดยมีกระบวนการสร้างเพื่อให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนดังวัตถุมงคลทั้งหลาย โดยผ่านพิธีกรรมปลุกเสกของ “องค์จตุคามรามเทพ” ซึ่งตามเดิมสร้างขึ้นเพียง ๒ ขนาด คือ ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ผมจึงได้ขออนุญาตจาก “องค์จตุคามรามเทพ” สร้าง “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ขึ้นใหม่ ๓ ขนาด คือ
   มีดขนาดเล็ก ใบมีดยาวในราว ๔ นิ้วครึ่ง
   มีดขนาดกลางใบมีดยาวในราว ๙ นิ้ว
   มีดขนาดใหญ่ ใบมีดยาวในราว ๑๘นิ้ว
   “องค์จตุคามรามเทพ” ได้เขียนยันตร์สำหรับตอกประทับลงในใบมีดทั้งสองด้าน ให้ประติมากรรมด้ามมีดงาช้าง โดยให้แกะสลักเป็นรูปพระพิฆเนศวร์ขี่คอมหาภูติ มอบหมายให้ผมเป็นผู้ถอดแบบ โดยหล่อจาก “ด้ามมีดงาช้างแดง” ให้มีขนาดเท่ากับของจริง เพื่อให้ช่างฝีมือแกะสลัก
   ผมจำไม่ได้ว่า “องค์จตุคามรามเทพ” อนุญาตให้สร้างมีด ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ขึ้นจำนวนเท่าใด เพราะเห็นว่า คุณสมชาติ ศรีรัตนารุ่งเรือง เป็นผู้จดบันทึกรายละเอียดไว้แล้ว คุณสุวัฒน์ เหมอังกูร ซึ่งเป็นผู้ร่วมงานก็เป็นผู้มีการศึกษาดี มีหน้าที่การงานสูงในระดับผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสยามสแควร์ เป็นผู้หาเงินทุนมาสร้างและได้ติดต่อว่าจ้าง โกเนี้ยว ที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เป็นผู้คอยดูแลการสร้างจนกระทั่งเสร็จสิ้น
   การสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” เสร็จสิ้นเมื่อใดผมและคุณสมชาติ ฯ ไม่ทราบ เพราะว่าภายหลังจากสร้างเสร็จแล้ว คุณสุวัฒน์ ฯ เป็นผู้นำไปตอกเลขหมายและตอกโค๊ตที่บ้าน ไม่ได้นำมามอบให้ “องค์จตุคามรามเทพ” เหมือนกับการสร้างวัตถุมงคลหลักเมืองที่เคยทำกันมา จนกระทั่งวันหนึ่งในขณะทำพิธีที่ชั้นบนของภัตตาคารนมสด สี่แยกงามวงศ์วาน “องค์จตุคามรามเทพ” ได้เตือนให้ คุณสุวัฒน์ ฯ ทราบว่า การสร้างมีดเป็นสิ่งมีอาถรรพณ์ เมื่อสร้างเสร็จแล้วอย่านำไปเก็บไว้ที่บ้านจะเป็นอันตราย ให้นำมาเก็บไว้ในห้องพิธีลบล้างอาถรรพณ์ คุณสุวัฒน์ ฯ อ้างว่ายังตอกหมายเลขไม่เสร็จ ผมจึงได้รู้ว่า “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่๓” สร้างเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนั้นในการทำพิธีทุกครั้ง “องค์จตุคามรามเทพ” ก็ได้เตือนให้นำมีดไปเก็บไว้ในห้องพิธีเสีย คุณสุวัฒน์ ฯ อาจทนรำคาญไม่ได้ จึงนำมีดทั้งหมดใส่กล่องพลาสติกขนาดใหญ่นำไปเก็บไว้ในห้องพิธี ผมและคุณสมชาติ ฯ ไม่ได้ตรวจนับว่าจำนวนเท่าใด
   ผมมีความรู้สึกคล้ายกับว่า “องค์จตุคามรามเทพ” ล่วงรู้ถึงความไม่ซื่อตรงของคุณสุวัฒน์ ฯ จึงวางกลอุบายดัดหลังเพื่อสั่งสอนให้เข็ดหลาบ และได้กล่าวเตือนอีกหลายครั้ง แกล้งนิ่งเฉยไม่กำหนดวันทำพิธีปลุกเสก ปล่อยให้วันเวลาผ่านไปนาน จนกระทั่ง คุณสุวัฒน์ ฯ อดรนทนไม่ไหวได้ไปขอกุญแจห้องพิธีจากคุณสมชาติ ฯ อ้างว่าจะเอามีดไปตอกโค๊ตให้เสร็จสิ้น ไม่มีใครทราบว่า คุณสุวัฒน์ ฯ เอาไปจำนวนเท่าใด
   ต่อมา นายมานพ เกิดอุ่ม สืบทราบว่า คุณสุวัฒน์ ฯ ร่วมกับ “ช่างแฝด”สร้าง “พระปิดตาพังพระกาฬแบบลอยองค์” รุ่นคันฉ่องสองจักรพรรดิปลอม จึงติดต่อขอเงินจากคุณสมชาติ ฯ เพื่อให้สายลับไปล่อซื้อและจับกุม อยู่มาไม่นานทราบว่า “ช่างแฝด” เส้นเลือดในสมองแตกตาย คุณสุวัฒน์ ฯ อาจตกใจกลัวหรือระแวงว่าพวกผมรู้ความลับว่าร่วมกับ “ช่างแฝด” สร้างพระปลอมจนถูกลงโทษ จึงหลบหน้าหายไปไม่เคยจอกันอีกเลย
   ผมเห็นว่าถ้าปล่อยให้มีการสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” แพร่ระบาดขึ้นมาอีก โดยมีสถาบันใดรองรับเพื่อให้ผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาเชื่อถือมั่นใจได้แล้ว ก็จะเกิดการต้มตุ๋นหลอกลวงเหมือนในอดีต และไม่แตกต่างไปจากวงการพุทธพาณิชย์ ผมอยากให้ “พระจตุคามรามเทพ” มีหลักประกันที่เชื่อถือได้เหมือนอย่าง สถาบันคริสตี้ในประเทศอังกฤษ หรือสมาคมค้าวัตถุโบราณของฮ่องกง ให้หลักประกันแก่ลูกค้าจนเป็นที่ยอมรับทั่วโลก จึงได้จัดตั้ง “อาศรมจตุคามรามเทพ” และออกหนังสือรับรองวัตถุมงคลที่เช่าซื้อไปจาก “อาศรมจตุคามรามเทพ” ถ้าไม่พอใจไม่แน่ใจก็คืนได้โดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมกับจัดนิทรรศน์การ “ความรู้สู่ความจริงแท้” เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้แก่สมาชิก
   ปรากฏว่าในการจัดนิทรรศน์การ “ความรู้สู่ความจริงแท้” ถึง ๓ ครั้ง นายมานพ เกิดอุ่ม ไม่เคยไปร่วมงานแม้แต่ครั้งเดียว และทราบข่าวจากสมาชิกว่า “พระจตุคามรามเทพ” รุ่นนาร์กีส แบบเนื้อลายสลับสี พระผงสุริยัน-จันทรา สีแดง ที่เช่าซื้อมาจาก นายมานพ ฯ และสมัครพรรคพวกมาในราคาแพงเป็นของปลอม จึงทำให้รู้ว่า นายมานพ เกิดอุ่ม ร่วมกับทางโรงงานสร้าง “พระจตุคามรามเทพ” โดยเลือกปลอมเฉพาะแบบพิเศษ สีพิเศษ เนื้อพิเศษ ออกมาขาย นับจากนั้นเป็นต้นมา นายมานพ เกิดอุ่ม หลบหน้าหายไป
   ภายหลังจาก คุณสุวัฒน์ ฯ หลบหน้าหายไปเป็นช่วงเวลาที่ คุณสมชาติ ฯ ต้องย้ายไปสร้างภัตตาคารสยามไชนีสเรสเตอรอง ที่ ซอย ๙ ถนนสีลม “องค์จตุคามรามเทพ” จึงให้นำ “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ที่เหลืออยู่ ๒ ขนาด คือ มีดขนาดเล็กและมีดขนาดกลาง ไปทำพิธีปลุกเสกตามฤกษ์พานาทีที่บ้านของผมจนเสร็จสิ้น และได้มอบให้ผมเก็บไว้เป็นสมบัติของ “อาศรมจตุคามรามเทพ” ผมถือว่าเป็น “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ที่ทำพิธีปลุกเสกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นรุ่นสุดท้ายมีอยู่จำนวนจำกัด จึงให้เช่าซื้อในราคาที่แพงมาก เพราะอยากเก็บไว้เป็นทรัพย์สินของ “อาศรมจตุคามรามเทพ” ไม่อยากให้หมดสิ้นไปเพราะหาไม่ได้อีกแล้ว
บันทึกการเข้า
tiradej
Full Member
***
กระทู้: 117



อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 07:57:50 PM »

ความจริงความลับที่ไม่เคยมีใครรู้เรื่องมีดจตุคามรามเทพ
   ความจริงและความลับที่ไม่เคยมีใครรู้ที่ผมจะนำมาเปิดเผยต่อไปนี้ เป็นความจริงความลับที่ผมไม่เคยนำมาเปิดเผยมาก่อน เพราะเห็นว่า คุณสุวัฒน์ ฯ ได้ลาออกจากการเป็นผู้จัดการธนาคาร อาจต้องเข้ามาทำมาหากินอยู่ในวงการวัตถุมงคล ซึ่งตนเองเคยมีความชำนาญมาก่อน แต่ในแวดวงพุทธพาณิชย์หรือเรียกว่าวงการโจรปล้นโจร ถ้าใครมีประวัติด่างพร้อยเพียงนิดเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อครหาในเรื่องการสร้างพระปลอมสร้างพระเสริม หมดเครดิตทำมาหากินไม่ได้ ผมไม่ต้องการทำลายหนทางทำมาหากินของใครคุณสุวัฒน์ ฯ จะสร้างวัตถุมงคลอะไร เอาไปให้หลวงปู่หลวงพ่อที่ไหนทำพิธีปลุกเสกยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหน โฆษณาอวดอ้างความศักดิ์สิทธิ์อย่างไร ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรทำเหมือนกับว่าเราไม่เคยรู้จักกัน ผมไม่ทราบว่าทำไมจะต้องหวนกลับมาหากินกับการสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” และ “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ด้วยวิธีการสร้างนิยายน้ำเน่า อวดอ้างว่าได้รับของศักดิ์สิทธิ์มาจากหลวงปู่คนนั้นคนนี้ ทำไมไม่บอกว่าได้รับมาจาก “องค์จตุคามรามเทพ” ในอดีตเคยขีดเขียนบทความลงในนิตยสารพระเครื่องไว้ว่าอย่างไร แต่ทำไมขณะนี้จึงพูดไปอีกอย่างหนึ่ง โต้แย้งแสดงเหตุผลว่า “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” หรือ “พระจตุคามรามเทพ” ใคร ๆ ก็สร้างได้ ไม่ใช่ผมเป็นผู้ผูกขาดเพียงคนเดียว วาจาที่วกวนสับปลับกลับกลอกเหมือนลิงหลอกเจ้าเช่นนี้ สร้างความเสียหายให้กับผม ส่งผลกระทบต่อความเลื่อมใสศรัทธาต่อ “องค์จตุคามรามเทพ” และสร้างความเสื่อมเสียแก่ “อาศรมจตุคามรามเทพ” ผมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องชี้แจงความจริงให้ทุกคนได้รู้ เพื่อป้องกันไม่ให้ “องค์จตุคามรามเทพ” อาศรมจตุคามรามเทพ” ได้รับความเสียหาย และจำเป็นต้องเปิดเผยความลับเบื้องหน้าเบื้องหลังให้ทราบโดยทั่วกัน
   ทั้งนี้เพราะว่า คุณสุวัฒน์ ฯ เคยเป็นแกนนำสำคัญคนหนึ่ง ใคร ๆ ก็รู้ว่าเป็นคนอยู่วงในใกล้ชิดสนิทสนมกับผมมานาน เคยได้รับมอบหมาย ไว้วางใจให้เป็นผู้ไปติดต่อว่าจ้างช่างฝีมือปั้นหุ่นและโรงงานหล่อพระ สกรีนผ้ายันตร์มามากมายหลายรุ่น แม้กระทั่งว่าจ้าง โกเนี้ยว ให้เป็นผู้สร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” รุ่นที่ ๒ และรุ่นที่ ๓ ย่อมรู้อยู่แก่ใจตนเองดีอยู่แล้วว่า “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช”หรือที่เรียกกันว่า “พระจตุคามรามเทพ” ทั้งหลายทั้งปวงนั้น “องค์จตุคามรามเทพ” เป็นผู้บอกให้ผมสร้างขึ้นและมอบหมายให้ผมเป็นผู้ออกแบบ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนภูมิของจักรวาลและการโคจรของดวงดาวในท้องฟ้า ที่ส่องแสงสัมพันธ์กับดวงชะตาของบ้านเมืองมาทุกแบบทุกรุ่นทุกขนาด มาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๐ จนกระทั่งถึง พ.ศ. ๒๕๕๑ ต่อจากนั้น “องค์จตุคามรามเทพ” จะให้ผมเป็นผู้กำหนดฤกษ์ยามศักดิ์สิทธิ์ “องค์จตุคามรามเทพ” เป็นผู้ทำพิธีปลุกเสกเอง ไม่เคยให้พระสงฆ์องค์เจ้าไม่ว่าพระเกจิอาจารย์ที่อวดอ้างว่ามีเวทมนตร์คาถาอาคมขลังขนาดไหน คือไม่ยินยอมให้ภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น ถ้าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ผมกล่าวมาแล้ว ก็ถือว่าเป็น “พระจตุคามรามเทพปลอม” หรือว่าเป็น “มีดจตุคามรามเทพปลอม” นอกจากไม่ได้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามจุดประสงค์แล้ว ยังเป็นของอัปมงคลเป็นเสนียดจัญไรเป็นสื่อที่จะนำภัยพิบัติความโชคร้ายมาสู่ผู้ครอบครองและครอบครัว ถือว่าเป็นการหลอกลวงต้มตุ๋นฉ้อโกงประชาชนอย่างน่าละอาย
   ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจตนเองดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังอวดอ้างเพื่อสร้างราคาว่า “พระจตุคามรามเทพ” รุ่นนั้นรุ่นนี้เป็นฝีมือการออกแบบของตนเองบ้าง ได้รับชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์มาจากแหล่งนั้นแหล่งนี้บ้าง แต่ที่น่าขบขันที่สุดก็คือเรื่อง “ไม้ค้ำฟ้า” สร้างนิยายว่าหลวงปู่ม้าหรือหลวงปู่อะไรเป็นผู้นำมามอบให้นายบุญเติม สิทธิไพศาล หรือ โกเนี้ยว ช่างทำมีดที่จังหวัดลำปาง เป็นพญาไม้มงคลที่หวงนักหวงหนา เพิ่งนำมาทำด้ามมีดจตุคามรามเทพในครั้งนี้เป็นครั้งแรกและได้รับมอบยันตร์สำหรับตอกลงในใบมีดให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ ผมถือว่าเป็นการจงใจร่วมกันโกหกหลอกลวงผู้บริโภคและโฆษณาขายสินค้าที่เกินความเป็นจริง
   จึงขอเรียนให้สมาชิกและผู้ที่สนใจทราบความจริงว่า “ไม้ค้ำฟ้า” หรือ “ไม้เท้าฤาษี” เป็นพันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่แต่เฉพาะในเขตป่าร้อนชื้น หรือเขตป่าฝนบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร ดินแดนที่เป็นป่ารกทึบต้นไม้ใหญ่ใบหญ้ามีสีเขียวสดตลอดปีไม่เคยผลัดใบ นักภูมิศาสตร์เรียกพื้นที่แถบร้อนชื้นใกล้เส้นศูนย์สูตรนี้ว่า “เข็มขัดมรดกของโลก” พวกเงาะป่าซาไกและชาวพื้นเมืองในภาคใต้รู้จักดี
   ผมเองเป็นคนปักษ์ใต้โดยกำเนิด ก็ไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็น “ไม้ค้ำฟ้า” แต่ก่อนก็ไม่เคยมีใครพูดถึงไม่มีใครสนใจจนกระทั่งเมื่อ “องค์จตุคามรามเทพ” บอกให้ผมขึ้นไปเอาจากภูเขาหลวง เพื่อนำมาทำไม้เท้างู ผมจึงเขียนบอกเล่าเรื่องราวความมหัศจรรย์ของ “ไม้ค้ำฟ้า” พวกนักสร้างพระจตุคามรามเทพปลอมสมัยที่กระแสความนิยมร้อนแรงสุดขีด ได้หยิบยกขึ้นมาอวดอ้างเพื่อสร้างราคากันมาแล้ว โดยไม่รู้ว่าเป็นไม้เนื้ออ่อนที่ใช้การอะไรไม่ได้ เพราะว่าเมื่อทิ้งไว้จนแห้งเนื้อไม้จะยุ่ยเป็นมอดกินตัวเองเหมือนกับไม้ยางพารา ต้องแช่น้ำยาเสียก่อนจึงจะใช้การได้ พวกเงาะป่าซาไกและแพทย์แผนโบราณจึงมักเก็บเอาแต่เปลือกของ “ไม้ค้ำฟ้า” มาต้มเป็นยาหม้อสมุนไพรเพื่อให้คลอดลูกง่าย
   ส่วนภาคเหนือดินแดนแห่งล้านนา เป็นเขตกึ่งอบอุ่นเป็นเขต “ป่าไม้เบญจพันธุ์” ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนที่ยาวนาน ป่าโปร่งมักขาดน้ำต้นไม้ผลัดใบไปทั้งป่า เกิดไฟไหม้ลุกลามเป็นควันฟุ้งตลบขาวโพลนเหมือนในหมอกไปทั่วทุกปี พื้นที่เขตอบอุ่นจึงแตกต่างกับเขตป่าฝนที่ร้อนชื้น ดังจะเห็นได้ว่าในภาคเหนือไม่มีต้นโกงกาง ต้นการบูร ต้นจาก หรือพันธุ์พืชเขตศูนย์สูตรเกิดขึ้นบนดอย เพราะว่าผิดธรรมชาติ ไม่ทราบว่า หลวงปู่ม้าไปเอา “ไม้ค้ำฟ้า” หรือ “ไม้เท้าฤาษี” มาจากไหน หรือว่า คุณสุวัฒน์ ฯ จินตนาการไปเอง เพื่อสร้างจุดขาย “มีดจตุคามรามเทพปลอม” แต่ควรจะมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์และพฤกษศาสตร์ให้มากกว่านี้ ถ้าสร้างมีดทำครัว หรือมีดปอกผลไม้ หรือมีดหลวงปู่อะไรขึ้นมาขาย คุณสุวัฒน์ ฯ จะโกหกพกลมโฆษณาสินค้าอย่างไรผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่ถ้าสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” ซึ่งเป็นวัตถุมงคลประเภท “เครื่องรางของขลัง” อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ “องค์จตุคามรามเทพ” ซึ่งผมเป็นผู้ออกแบบ จึงจำเป็นต้องท้วงติงให้ผู้สร้างวัตถุมงคลยึดมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดีเป็นสาธุชนที่ควรแก่การเคารพนับถือ ไม่ควรกล่าวคำมุสาวาท เพราะว่าพระไตรปิฎกติเตียนว่า
   “คนโกหกไม่ทำบาปเป็นไม่มี”
   นอกจากนั้น ผมขอเรียนให้สมาชิกและผู้สนใจทราบว่า ชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นอย่างนี้ที่นำมาเป็นส่วนผสมในการหล่อหลอมเหล็กสำหรับตีมีด เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ตามที่ คุณสุวัฒน์ ฯ อวดอ้าง ไม่ทราบว่าไปได้มาจากไหน หลวงพ่อหรือว่าหลวงปู่รูปใดมอบให้ ผมไม่ติดใจอะไรในเรื่องนี้ ถ้าหาก คุณสุวัฒน์ ฯ เชื่อว่าชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์ ยันตร์ของหลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์ ไม้ค้ำฟ้าของหลวงปู่เป็นไม้วิเศษ ก็สามารถสร้าง “มีดหลวงปู่ม้า” หรือหลวงปู่อะไรก็ได้ แต่ทำไมต้องมาใช้ชื่อว่า “มีดจตุคามรามเทพ” ถ้าไม่มีใครซื้อใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นคำอวดอ้างเกี่ยวกับชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์ก็ดี ยันตร์ที่หลวงปู่มอบให้สำหรับใช้ตอกลงในใบมีดก็ดี เป็นแต่เพียงคำโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง ไปตามวิธีการทำมาหากิน โดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดีหรืออะไรทั้งนั้น
   แต่ถ้า คุณสุวัฒน์ ฯ อ้างว่าหลวงปู่องค์นั้นองค์นี้องค์โน้นบ้างเป็นผู้เขียน “ยันตร์” และเป็นผู้ให้ “ฤกษ์ศักดิ์สิทธิ์” ในการสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” ผมขอให้สมาชิกและผู้สนใจกลับไปอ่านเรื่อง “อจินไตย ๔ ประการ” ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงมีพุทธฎีกาห้ามมิให้ภิกษุสาวก “อวดอุตริมนุษยธรรม” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง “โลกจินดา” คือ ห้ามไม่ให้ภิกษุสาวกศึกษาเรียนรู้เพราะว่า “ศาสตร์แห่งจักรวาล” ซึ่งเป็นวิชาทางโลก เป็นความรู้ที่กว้างขวาง ยุ่งยากเกินกว่าสติปัญญาของภิกษุสงฆ์ และเป็นสิ่งขัดขวางหนทางแห่งความหลุดพ้น ทั้งยังเกินสติปัญญาของคนธรรมดาจะเข้าใจ จึงห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้ภิกษุสงฆ์รูปใดละเมิด ถือว่าเป็นคุรุกรรม หากว่าภิกษุใดฝ่าฝืนเป็นความผิดร้ายแรงขั้นปราชิก ขาดจากความเป็นสงฆ์ไปในทันที ดังนั้น หลวงปู่ที่ คุณสุวัฒน์ ฯ นำมาอวดอ้างเพื่อสร้างราคา ก็ถือได้ว่าเป็นพระปลอมเพราะว่าขาดจากความเป็นสงฆ์แล้ว
   เมื่อสมาชิกทราบข่าวว่า คุณสุวัฒน์ ฯ ว่าจ้างให้ โกเนี้ยว สร้าง “มีดจตุคามรามเทพ รุ่น ๔” และเปิดให้สั่งจองทางเว็บไซท์ เกรงว่าผู้คนทั่วไปจะสำคัญผิดคิดว่า “องค์จตุคามรามเทพ” อนุญาตให้สร้างขึ้น ผมเป็นผู้ออกแบบและเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนที่เคยทำกันมา จึงได้สอบถามไปยัง เว็บไซท์สุริยันจันทรา ผมตอบให้ทราบในทันทีว่า “องค์จตุคามรามเทพ” ไม่ได้อนุญาตให้ คุณสุวัฒน์ ฯ สร้างขึ้นแต่อย่างใด จึงได้บอกไปให้ โกเนี้ยว ทราบ เพราะช่างตีมีดมีฝีมือและเป็นผู้มอบ “ไม้ค้ำฟ้า” ให้แก่ คุณสุวัฒน์ ฯ จะมีอันเป็นไปเหมือน “ช่างแฝด” และช่างแกะสลักด้ามมีด โดยบอกความจริงให้ทราบว่า คุณสุวัฒน์ ฯ ทำมีดโดยไม่ได้ขออนุญาตจาก “องค์พ่อ” และสร้างพระจตุคามรามเทพปลอม จนถูกอัปเปหิไปจากวงการ ออกมาทำมาหากินเอง แต่แอบอ้างว่าเป็น “มีดจตุคามรามเทพ” ถ้าไม่เชื่อให้สอบถาม พล.ต.ท. สรรเพชร ธรรมาธิกุล ตามเบอร์โทรศัพท์ที่บอกไว้ และเตือนว่าจะเกิดความวิบัติฉิบหาย ปรากฏว่า โกเนี้ยว ปรึกษาลูกพี่ที่ทำมาหากินร่วมกันแล้วตะคอกสมาชิกทางโทรศัพท์ว่า
   “เฮียสุวัฒน์ ฯ ให้ทำต่อไป ไม่ต้องฟังเสียงใคร ผมก็ต้องทำ”
   ผมนำเรื่องราวมาบอกเล่าให้สมาชิกและผู้สนใจได้รู้ว่า การสร้าง “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ครั้งนี้ คุณสุวัฒน์ ฯ ร่วมมือกับ โกเนี้ยว กับ นายมานพ ฯ เลือกสร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” เฉพาะแบบแปลกพิเศษ ร่วมกับทางโรงงานที่เป็นสมัครพรรคพวกของ พล.ต.ท. ตรีทศ รณฤทธิชัย หลอกขายสมาชิก แต่แตกต่างกันตรงที่ นายมานพ ฯ มีลูกพี่ใหญ่เป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงรับใช้ใกล้ชิด พล.ต.ท. ตรีทศ รณฤทธิชัย จนมีความเจริญก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อผมบอกให้รู้ถึงพฤติกรรมชั่วช้าของลูกน้องและโรงงานว่าทำพระปลอมไปขายหลอกลวงต้มตุ๋นผู้คน นายมานพ ฯ ไม่สามารถเป็นร่างทรงของ “องค์จตุคามรามเทพ” ได้อีกต่อไป คล้ายกับว่าผมไปขัดขวางทางทำมาหากินของเขาทั้งลูกพี่ลูกน้องโกรธผมเป็นฟืนเป็นไฟหมดสิ้นความเคารพนับถือกัน เพราะต้องการจะไปสร้าง “พระจตุคามรามเทพแก้บน” ตามที่ “องค์จตุคามรามเทพ”วางกลลวงไว้ นับประสาอะไรกับคนอย่าง คุณสุวัฒน์ ฯ และโกเนี้ยว เขาถือว่าเงินคือพระเจ้า ถ้ามีเงินจ้างผีให้โม่แป้งได้ การโกหกพกลมการต้มตุ๋นหลอกลวงถือว่าเป็นศิลปะศาสตร์เป็นความสามารถเฉพาะตัวของคนฉลาดแกมโกงในวัฒนธรรมศรีธนญชัย
   ก่อนที่ผมจะเปิดเผยความจริงความลับที่ไม่เคยมีใครรู้เรื่อง”มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓”ผมอยากให้สมาชิกและผู้ที่สนใจไปค้าหานิตยสารพระเครื่อง “กรุงสยาม” ของ นายอุ๊ หรือนิตยสารพระเครื่องอีกหลายฉบับที่เคยลงบทความซึ่ง คุณสุวัฒน์ ฯ เคยเขียนไว้ มาอ่านทบทวนดูก็จะรู้ว่าในอดีต คุณสุวัฒน์ ฯ เคยเขียนไว้อย่างไร เพราะข้อเขียนที่พิมพ์ขึ้นเปรียบดังรอยสักด้วยน้ำหมึกที่ลบไม่ออก กับข้อความในเว็บไซท์ที่เปิดให้สั่งจอง พระจตุคามรามเทพปลอม และมีดจตุคามรามเทพปลอม เหมือนกันหรือไม่ หรือว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คงไม่มีใครนึกว่าอดีตบัณฑิตที่จบปริญญาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการธนาคาร ไร้เกียรติภูมิถึงขนาด ถ่มน้ำลายขึ้นฟ้ารดหน้าตัวเอง
   ผมขอเรียนให้ทุกคนทราบว่า ผมไม่ได้ขัดผลประโยชน์อะไรกับ คุณสุวัฒน์ ฯ ไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองทะเลาะเบาะแว้งกับ คุณสุวัฒน์ ฯ เพราะว่าวัตถุมงคลทั้งหลายที่ “องค์จตุคามรามเทพ” ให้สร้างขึ้น “องค์จตุคามรามเทพ” เป็นผู้จัดแบ่งให้กับทุกคน ใครจะเอาไปทำอะไรก็สุดแล้วแต่ จึงไม่มีปัญหาอะไรที่จะขัดอกขัดใจกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นดังที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้นว่าเป็นเรื่องระหว่าง นายมานพ ฯ กล่าวหาว่า คุณสุวัฒน์ ฯ จึงหลบลี้หนีหน้าไปจากวงการ เมื่อหวนกลับมาใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องราวฉาวโฉ่อยู่ในขณะนี้ก็เพราะว่า คุณสุวัฒน์ ฯ อ้างว่าเป็นผู้สร้าง “พระจตุคารามเทพซุ้มเรือนแก้วปลอม” และสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ” ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจตนเองดีอยู่แล้วว่าเป็นของปลอม แต่พยายามค้นหาเหตุผลมาแก้ตัว เพื่อกลบเกลื่อนความผิด ไม่ยอมรับผิด เพราะมีเจตนาที่จะหลอกลวงต้มตุ๋น โดยอ้างข้าง ๆ คู ๆ ว่า “พระจตุคามรามเทพ” ใคร ๆ ก็ทำขึ้นมาได้ ไม่ใช่ผมผูกขาดทำได้แต่เพียงผู้เดียว พฤติการณ์และการกระทำของ คุณสุวัฒน์ ฯ ทำให้ผมในฐานะที่เป็นผู้สร้าง “เสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช” และ “วัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช” และ “อาศรมจตุคามรามเทพ” ได้รับความเสียหาย ผมจึงจำเป็นจะต้องชี้แจงความเป็นจริงเปิดเผยให้เห็นถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังให้ทุกคนเข้าใจกันอย่างหมดเปลือก โดยไม่มีเจตนากลั่นแกล้งกีดกันใคร
   ถ้าคิดว่าผมเป็นผู้ผูกขาดการสร้าง “พระจตุคามรามเทพ” เพื่อหาประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว ผมขอเรียนให้สมาชิกทราบว่า แต่เดิมในการสร้าง พระจตุคามรามเทพ เขามอบหมายไว้วางใจให้ คุณสุวัฒน์ ฯ เป็นผู้ไปติดต่อว่าจ้างมากี่ครั้งกี่หน ถ้าผมเป็นอย่างที่คนพวกนี้กล่าวหา ขอให้คิดดูว่าทำไมผมจึงไปสร้าง “หลักชัยจตุคามรามเทพ” บนภูเขาบ้านศิลา อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำไมผมจึงไปสร้าง “พระจตุคามรามเทพองค์ใหญ่ที่สุดในโลก” ที่สหกรณ์โคนม อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว  ผมไปสร้างในที่ดินของผมที่บ้านยางชุม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือในหุบเขาบ้านบ่อนอกที่ภูมิทัศน์สวยงามไม่ดีกว่าหรือ ผมขอเรียนให้ทราบว่า การสร้าง “พระจตุคามรามเทพ” ขึ้นอยู่กับ “องค์จตุคามรามเทพ” เป็นผู้อนุญาตให้ใครไปสร้าง ตัวอย่างเช่น คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ขออนุญาตสร้างพระจตุคามรามเทพ รุ่นยามเฝ้าแผ่นดิน “องค์จตุคามรามเทพ” เพียงแต่ให้คุณสนธิ ทำหนังสือขออนุญาตลิขสิทธิ์จากผม ผมก็ไม่ขัดข้องอะไร
   ปรากฏการณ์ “ฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมาเจอกัน” ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ล้วนแต่เป็นคนที่เคยอยู่ในแวดวงใกล้ชิดกับผม และ “องค์จตุคามรามเทพ” ที่เป็นผู้สร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ทุกคนต่างก็รู้อยู่แก่ใจตนเองดีว่าเป็นการกระทำที่ผิดและหลอกลวงต้มตุ๋นผู้อื่น แต่พยายามพูดดีใส่ตัวโยนความชั่วใส่ผู้อื่น เมื่อหาข้อแก้ตัวไม่ได้ว่า “องค์จตุคามรามเทพ” อนุญาตให้สร้างขึ้น ด้วยนิสัยสันดานของความเป็นคนคดในข้องอในกระดูก ก็หาทางปลิ้นปลอกหลอกลวงด้วยเล่ห์กลนานาประการ ไม่สามารถปกปิดความเป็นโจรผู้ร้ายต่อไปได้ ความโลภมากอยากร่ำอยากรวย อยากได้เงินจนหน้ามือตามัว แม้รู้ว่าเป็นความผิดความชั่วก็จะทำต่อไป ไม่หวั่นเกรงอะไรทั้งสิ้น แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมก็จะต่อสู้ขัดขืน ไม่แตกต่างอะไรไปจากเหล่าอาชญากรค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน โจรลักชิงปล้นทั่วไป ด้วยเหตุนี้ กฎหมายบ้านเมืองจึงอนุญาตให้วิสามัญฆาตกรรมถ้ามีความจำเป็น ผมจึงไม่หนักอกหนักใจอะไรในเรื่อง “มีดจตุคามรามเทพปลอม” รุ่นใหม่ที่ คุณสุวัฒน์ ฯ ร่วมกับ โกเนี้ยว สร้างขึ้นและเปิดให้จองทางเว็บไซท์ เพราะว่าเมื่อทุกคนได้อ่านบทความนี้จบแล้ว ก็จะรู้ในทันทีว่า มีดปลอมอย่างนั้น อย่าว่าแต่ ๒,๐๐๐ บาทเลย ๒๐ บาทก็ไม่มีใครกล้าซื้อ
บันทึกการเข้า
tiradej
Full Member
***
กระทู้: 117



อีเมล์
« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 07:58:47 PM »

แต่ผมมีความหนักอกหนักใจเป็นที่ห่วงสุด ก็คือ
   “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓”
   เมื่อเปิดเผยความจริงความลับอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ผมเป็นห่วงและสงสารคนที่ซื้อ “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ไปจาก คุณสุวัฒน์ ฯ ที่เป็นห่วงก็เพราะว่า รุ่นที่ ๓ เป็นของจริงแท้ ตามที่ผมเล่าให้ฟังมาแล้วว่า “องค์จตุคามรามเทพ” เป็นผู้อนุญาตให้สร้าง โดยให้ผมเป็นผู้ออกแบบ ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่พร้อมกับเขียนยันตร์มอบหมายให้ คุณสุวัฒน์ ฯ ไปว่าจ้างโกเนี้ยว ซึ่งเป็นช่างทำมีดมืออาชีพที่จังหวัดลำปางให้เป็นผู้สร้างจึงถือว่า “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” เป็นมีดที่ “องค์จตุคามรามเทพ” อนุญาตให้สร้างอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ของปลอมแน่นอน
   แต่เนื่องจาก “องค์จตุคามรามเทพ” ล่วงรู้ถึงความไม่ซื่อตรงความมีชั้นเชิงมีเล่ห์เหลี่ยมของ คุณสุวัฒน์ ฯ และล่วงรู้ว่าบุคคลผู้นี้จะก่อให้เกิดปัญหาความยุ่งยากขึ้นในอนาคต จึงได้ซ้อนกลดัดหลังจนต้องแสดงสันดานดิบออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ด้วยการทำทีสอบถามเรื่องการสร้าง “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” จาก คุณสุวัฒน์ ฯ เมื่อทราบว่าสร้างเสร็จสิ้นแล้วให้นำมาเก็บไว้ในห้องพิธีชั้นบนของภัตตาคารนมสด สี่แยกงามวงศ์วาน เพื่อทำพิธีปลุกเสกตามฤกษ์
   เมื่อ คุณสุวัฒน์ ฯ ได้นำ “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ทั้งหมดไปเก็บไว้ในห้องทำพิธีแล้ว ก็ไม่ทำพิธีปลุกเสก จนกระทั่ง คุณสุวัฒน์ ฯ อดรนทนไม่ไหว ได้ไปขอกุญแจจาก คุณสมชาติ ฯ อ้างว่าจะนำมีดบางเล่มที่ยังตอกโค๊ตไม่เสร็จไปตอกโค๊ตเพิ่มเติม หลังจากนั้นได้เกิดเรื่องการสร้าง พระปิดตาพังพระกาฬแบบลอยองค์ปลอม ดังที่ผมเคยบอกกล่าวมาแล้ว นับจากนั้นเป็นต้นมา ผมกับ คุณสมชาติ ฯ ไม่เคยพบหน้าค่าตา คุณสุวัฒน์ฯ อีกเลย คุณสุวัฒน์ ฯ นำ “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ไปจำนวนเท่าใดและนำไปขายให้ใครบ้าง ในราคาเท่าใด ที่หนักใจและเป็นห่วงก็เพราะว่า “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ซึ่ง คุณสุวัฒน์ ฯ นำไปขาย ล้วนแต่เป็นมีดที่ “องค์จตุคามรามเทพ” ยังไม่ได้ทำพิธีปลุกเสกแม้แต่เล่มเดียว จึงมีค่าเท่ากับ
   “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓ ปลอม”
   ผมและ คุณสมชาติ ฯ พูดไม่ออก เพราะคิดว่าไม่มีเหตุโกรธเคืองอะไรกัน วันใดวันหนึ่งหากคุณสุวัฒน์ ฯ กลับมา ผมจะบอกให้นำมีดที่เอาไปทั้งหมดมาให้ “องค์จตุคามรามเทพ” ทำพิธีปลุกเสกเสียให้ถูกต้อง จึงไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครทราบ แต่ก็ยังหวั่นใจว่า ถ้าไม่บอกความจริงแก่ผู้ที่เช่าซื้อ “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ไปจาก คุณสุวัฒน์ ฯ ทราบความจริงแล้วหากเกิดเหตุมีอันเป็นไปอย่างหนึ่งอย่างใด บาปเวรทั้งหลายอาจตกมาถึงผม แต่ถ้าพูดความจริงออกไป ทุกคนที่เช่าซื้อ “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ไปจากคุณสุวัฒน์ ฯ จะเกิดความแตกตื่นตกอกตกใจวุ่นวายไปหมด ผมอาจถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้ง คุณสุวัฒน์ ฯ จึงปิดบังเรื่องนี้ตลอดมา
   บังเอิญทราบข่าวจากสมาชิกว่า คุณสุวัฒน์ ฯ เปิดให้สั่งจอง “มีดจตุคามรามเทพปลอม” รุ่นใหม่ ผมจึงขอให้ช่วยสอบถาม “โกเนี้ยว” ว่าเป็นมีดที่ คุณสุวัฒน์ ฯ สั่งให้สร้างขึ้นใหม่หรือว่าเป็นของเก่า และบอกให้ โกเนี้ยว รุ้ว่าร่วมกับ คุณสุวัฒน์ ฯ สร้าง “มีดจตุคามรามเทพปลอม” หลอกลวงขายประชาชน เป็นการสร้างบาปกรรมทำชั่ว ครูช่างจะต้องสาปแช่งให้วิบัติมีอันเป็นไป จนกระทั่งรู้แน่นอนว่า ทั้ง คุณสุวัฒน์ ฯ และโกเนี้ยว มีสภาพเหมือนสุนัขบ้า ไม่มีหนทางใดจะรักษาเยียวยาได้แล้ว ผมจึงตัดสินใจเปิดเผย “ความจริงความลับที่ไม่เคยมีใครรู้เรื่องมีดจตุคามรามเทพ” อย่างน้อยอาจช่วยลดอันตรายให้แก่ผู้ที่ทราบความจริงได้บ้าง และเป็นกลวิธีกำจัดตัดตอนไม่ให้ คุณสุวัฒน์ ฯ และโกเนี้ยว ร่วมกันหลอกลวงต้มตุ๋นคนแผ่ขยายวงกว้างมากกว่านี้ จึงเรียนให้ทราบว่า “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ที่สร้างขึ้นมาใหม่ และ “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ไม่ว่าขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่ซื้อไปจาก คุณสุวัฒน์ ฯ เป็นของที่ “องค์จตุคามรามเทพ” ยังไม่ได้ปลุกเสก จึงมีสภาพเป็นของปลอม
   เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเครื่องรางของขลังจำพวก “ศาสตราวุธ” ไม่ว่ามีดสั้น กริช ดาบ หรืออะไรก็ตามหากทำขึ้นโดยไม่ถูกต้อง ล้วนแต่มีภยันตรายร้ายแรงสยดสยองน่ากลัว ดุจดังสายล่อฟ้าเป็นพาหะที่จะนำความอัปมงคลเสนียดจัญไร ความอุบาทว์อัปรีย์ทั้งหลายทั้งปวงมาสู่ตนเอง ภรรยา บุตร บริวารทรัพย์สิน กิจการงาน อานุภาพของธาตุเหล็กแห่งดาวอังคาร ย่อมมีความแข็งกล้า คราใดถึงคราวเคราะห์ก็ร้ายก็บังเกิดความวิบัติฉิบหายในชั่วพริบตา จึงขอเรียนให้ทราบว่า “มีดจตุคามรามเทพรุ่นที่ ๓” และ “มีดจตุคามรามเทพปลอม” รุ่นใหม่ ที่ คุณสุวัฒน์ ฯ และ โกเนี้ยว ร่วมกันสร้างขึ้น ผู้ใดซื้อไปอย่าเก็บไว้ในบ้านเรือนหรือพกติดตัวไป เพราะจะบังเกิดอันตรายร้ายแรงขึ้นได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ดังนั้น เมื่อทราบความจริงตามที่ผมบอกกล่าวแล้ว ขอให้รีบนำไปคืนเสียโดยเร็วที่สุด ก่อนจบบทความนี้ ผมขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับมนตราอาถรรพณ์ของ “มีดจตุคามรามเทพ” ซึ่งเคยเกิดขึ้นในอดีตซึ่งกลายเป็นตำนานไปแล้วมาเล่าให้ฟังสัก ๒ เรื่อง
   เรื่องแรก เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ภายหลังจากผมทราบว่า นายอะผ่อง สกุลอมร ได้ยักยอกวัตถุมงคลหลักเมือง เป็นต้นว่า พระเครื่อง พระบูชา ผ้ายันตร์ ที่คณะกรรมการหลักเมืองฝากไว้ที่บ้าน ไปขายหาผลประโยชน์ส่วนตัว และต่อมาสร้างวัตถุมงคลในลักษณะเลียนแบบ วัตถุมงคลหลักเมือง อันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ จึงถูกไล่ออกจากการเป็นร่างทรง ถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์และละเมิดลิขสิทธิ์ ตำรวจได้จับกุมและยึดของกลางที่เหลืออยู่ไปดำเนินคดี นายอะผ่อง ฯ ไม่ยอมคืน “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๑” ซึ่งผมมอบให้ไว้ใช้ในพิธีประทับทรง ได้ซ่อนเร้นยักยอกไว้เป็นของตนแล้วแอบนำไปบอกขายในราคา ๑๒๐,๐๐๐ บาท
   ได้เกิดปรากฏการณ์เหลือเชื่อเกิดขึ้น คืนหนึ่ง นายเชษฐพงศ์ วุฒิวิชิตวัฒนกุล หรือโกวัน แสงฟ้า ซึ่งเป็นศิษย์หลักเมืองใกล้ชิดคนหนึ่งนอนหลับนอนหลับฝันไปว่า “องค์จตุคามรามเทพ” ได้บอกให้ไปซื้อมีดจากนายอะผ่อง ฯ กลับคืน แล้วนำไปมอบให้ผมที่กรุงเทพ ฯ แต่ขณะนั้นนายเชษฐพงษ์ ฯ ขาดสภาพคล่องทางการเงิน “องค์จตุคามรามเทพ” จึงได้บอกเลขเด็ดให้ซื้อหวยเบอร์ สั่งว่าถ้าได้เงินแล้วให้ไปซื้อ “มีดจตุคามรามเทพ” กลับคืนจากนายอะผ่อง ฯ ในทันที
   เมื่อตื่นจากความฝันจึงได้ไปซื้อหวยเบอร์ตามที่บอกไว้ ถูกตรงตัวได้เงินมาจำนวนหนึ่ง จึงติดต่อขอซื้อมีดจากนายอะผ่อง ฯ ในราคา ๑๒๐,๐๐๐ บาท ต่อจากนั้นจึงมอบหมายให้นายสมนึก ยอดไสว ศิษย์หลักเมืองอีกคนหนึ่งนำขึ้นเครื่องบินมามอบให้ผม “มีดจตุคามรามเทพ” จึงกลายเป็นพยานหลักฐานสำคัญยืนยันว่า นายอะผ่อง ฯ ได้ยักยอกทรัพย์จริง คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ดังที่ผมแนบสำเนาของกลางมาให้ดูเป็นหลักฐาน
   ต่อมา นายอะผ่อง ฯ เกิดเจ็บป่วยเป็นโรคไตร้ายแรงเรื้อรังที่รักษาไม่หาย ไม่ว่าจะมีเงินทองสักเท่าไรก็ต้องเสียเงินฟอกไตจนหมดสิ้น และต้องทนทุกข์ทรมานไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ กล่าวกันว่า “องค์จตุคามรามเทพ”ไม่ยอมให้ตายไปจนกว่าจะชดใช้กรรมให้สาสมกับความผิดความชั่ว
   ยังมีตำนานอีกเรื่องหนึ่ง เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราชเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดัง คุณสมชาติ ศรีรัตนารุ่งเรือง เล่าให้ผมฟังได้ซื้อ “มีดจตุคามรามเทพ” มาเล่มหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นของจริงหรือว่าของปลอม ขอให้ผมช่วยตรวจดู เพียงแค่ผมมองดูก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นของแท้ เพราะว่า “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๑” ผมเป็นผู้ออกแบบมอบให้ นายจุก มิตรกุล กับพวกไปทำจนเสร็จสิ้น ผมเป็นผู้ใช้ตะไบตกแต่งให้ประณีตสวยงามด้วยมือของผมเองทุกเล่ม ต่อจากนั้นจึงให้ อาจารย์มนตรี จันทพันธ์ เป็นผู้ตอกยันตร์ลงในใบมีดทั้งสองข้าง แล้วนำไปแช่น้ำผึ้งรวงบริสุทธิ์จนครบกำหนด ผมจึงนำไปลับให้คมกริบเหมือนดังมีดโกน ส่วนด้ามผมกลึงด้วยไม้ตะเคียนทองหลักเมือง ฝักมีดผมทำด้วยไม้สัก ผมจึงจำได้แม่นยำ และรู้ว่าเป็นมีดเล่มที่ผมนำไปมอบให้ “พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช” ในฐานะที่ท่านเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญร่วมกับผมสร้าง “หลักเมืองนครศรีธรรมราช” จนกระทั่งเสร็จสิ้น ผมสงสัยว่าลูกหลานของท่านคงแอบขโมยเอามาขายโดยที่ท่านไม่รู้
   ผมบอกให้ คุณสมชาติ ฯ ทราบว่าเป็นของแท้ แต่ไม่ควรเอาไว้ ให้รีบขายต่อหรือว่าทำอย่างไรก็ได้ให้พ้นไปจากมือ โดยอธิบายให้ทราบว่า “มีดจตุคามรามเทพ” เป็นมีดที่มีอาถรรพณ์ศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนเห็นประจักษ์ ดังที่ผมเล่ามาแล้วข้างต้น และเกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์อีกครั้งหนึ่งที่ทุกคนเห็นด้วยสายตาของตนเอง คือเมื่อครั้งที่ทำพิธีอัญเชิญเสาหลักเมืองขึ้นประดิษฐานบนแท่นในศาลหลักเมือง ประชาชนจำนวนมากได้ไปช่วยกันดึงสายมงคล เมื่อนำเสาหลักเมืองขึ้นประดิษฐานบนแท่นแล้ว ผมยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าศาลหลักเมืองด้านทิศใต้ ได้ใช้ “มีดจตุคามรามเทพ” ประจำตัวของผมฟันด้ายสายมงคลตามฤกษ์ ทุกคนในพิธีเห็นด้วยตาตนเองว่าแผ่นฟ้าแยกออกจากกันเป็นทางยาวจากทิศตะวันออกไปจดทิศตะวันตก ทุกคนต่างตื่นตะลึงที่เห็นปรากฏการณ์บนท้องฟ้าอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ผมบอกให้ คุณสมชาติ ฯ ทราบว่า “องค์จตุคามรามเทพ” ให้สร้างมีดขึ้นตามกำลังดาวพระเคราะห์ เพื่อมอบให้แก่คนสำคัญตามที่ระบุชื่อไว้ แม้แต่อาจารย์มนตรี จันทพันธ์ ขอก็ไม่ยอมให้ ดังนั้น ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของอย่าเอาไว้เป็นอันขาด  จะเกิดอันตรายแก่ตนเองและครอบครัว
   คุณสมชาติ ฯ เล่าให้ฟังว่า เมื่อได้รับฟังคำเตือนจากผมก็เชื่อ ได้พยายามติดต่อขายไปแต่ไม่มีใครซื้อ เพราะไม่มีใครรู้จัก จะนำไปทิ้งก็กลัวว่าจะเป็นการดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงเก็บซ่อนไว้ที่บ้าน อยู่มาวันหนึ่งลูกชายของคุณสมชาติ ฯ ขับรถยนต์คุณสมชาติ ฯ ออกจากมหาวิทยาลัย มีเพื่อนขอนั่งไปด้วยคนหนึ่ง ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ เพื่อนที่นั่งไปด้วยเสียชีวิต แต่ลูกชายคุณสมชาติ ฯ ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก ปัญหายุ่งยากเกิดขึ้นก็คือ เพื่อนของลูกชายที่เสียชีวิตไปนั้น เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว พ่อแม่เขาเสียใจเป็นอย่างมาก ได้ยื่นฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายหลายสิบล้านบาท ต้องวิ่งเต้นสู้คดีกันอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดศาลตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายไป ๑ ล้านบาท จึงหมดสิ้นเคราะห์กรรม ผมทราบเรื่องเพียงเท่านี้ ถ้าใครอยากรู้เพิ่มเติมหรือสงสัยอะไรก็ขอให้ถาม คุณสมชาติ ฯ เอาเอง
   ดังนั้น อย่าว่าแต่ “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ที่ทำขึ้นครั้งนี้เลย แม้แต่ “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” เป็นมีดที่ทำขึ้นถูกต้องครบถ้วนทุกอย่าง เพียงแต่ผิดมือ ไปตกอยู่ในความครอบครองของผู้ที่ “องค์จตุคามรามเทพ” ไม่ได้ระบุชื่อไว้ก็ยังมีอันเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น ถ้าหากว่าเป็นมีดที่ “องค์จตุคามรามเทพ” อนุญาตให้สร้างและให้ตอกยันตร์ในใบมีดอย่างครบถ้วน แต่เมื่อผู้สร้างมีพฤติกรรมส่อไปในทางคดในข้องอในกระดูก คิดเอารัดเอาเปรียบ หน้าไหว้หลังหลอก “องค์จตุคามรามเทพ” จึงดัดหลังลงโทษทำพิธีปลุกเสกลบล้างอาถรรพณ์ธาตุเหล็กให้ ก็ถือว่าเป็น “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ผมไม่สามารถลงความเห็นได้ว่า “มีดจตุคามรามเทพปลอม” อย่างไหนมีอาถรรพณ์ร้ายแรงมากน้อยกว่ากันอย่างไร แต่ไม่อยากให้ทุกคนที่ซื้อไปจากคุณสุวัฒน์ ฯ เสี่ยงเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นตัว ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุเภทภัยขึ้นเมื่อไร ทางที่ดีที่สุดก็คือเมื่อทราบความจริงแล้ว ควรจุดธูปเทียนเพื่อขอขมาลาโทษบอกกล่าวว่าไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ดูหมิ่น มีความเคารพศรัทธาต่อ “องค์พ่อ” ไม่มีเสื่อมคลาย ต่อจากนั้นขอให้รีบนำไปคืน คุณสุวัฒน์ ฯ เสียโดยเร็วที่สุด เสียเงินเสียทองไปเพราะว่าอยากได้มีดศักดิ์สิทธิ์ของจริงของแท้ แต่กลับกลายเป็นมีดที่ไม่ได้ผ่านพิธีกรรมปลุกเสกของ “องค์จตุคามรามเทพ” เมื่อเป็นเช่นนี้กลัวว่าจะเกิดเป็นอันตรายร้ายแรงขึ้นจึงขอเงินคืน ถ้าหากว่า คุณสุวัฒน์ ฯ ไม่ยอมรับคืนบ่ายเบี่ยงโยกโย้ท่านั้นท่านี้ ผมขอแนะนำว่าทางที่ดี ควรไปแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และหลอกลวงผู้บริโภค โดยปริ๊นข้อความที่ผมเรียบเรียงไว้ไปแสดงเป็นพยานหลักฐาน เพื่อยืนยันถึงการตกลงกันว่าเป็นการซื้อขายมีดศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อไม่ศักดิ์สิทธิ์จริงตามที่โฆษณา จึงถือว่าเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคด้วยกลฉ้อฉล ขอให้สอบสวนดำเนินคดีไปตามกฎหมายและเชิญผมไปให้ถ้อยคำเป็นพยาน ผมพร้อมที่จะยืนยันเพราะเคยแถลงเรื่องนี้ไว้ต่อศาลมาแล้ว
   แต่หากใครที่รู้ความจริงและความลับทั้งหลายแล้ว ยังคงมีความอยากได้ใคร่มี “มีดจตุคามรามเทพปลอม” แม้จะรู้แล้วว่าเป็นมีดปลอมซึ่ง คุณสุวัฒน์ ฯ และโกเนี้ยว ร่วมกันสร้างขึ้นไว้ในครอบครอง เพราะเห็นว่าเป็นของดีราคาถูกและไม่เชื่อในสิ่งที่ผมบอกกล่าว ก็ขอให้รีบสั่งจองเสีย หรือผู้ที่ซื้อ “มีดจตุคามรามเทพ รุ่นที่ ๓” ไปจาก คุณสุวัฒน์ ฯ เพราะว่าในตอนนั้นไม่รู้ความจริง แต่บัดนี้ผมบอกความจริงแล้ว แต่ไม่เชื่อและไม่นำไปคืนตามที่ผมแนะนำก็ไม่เป็นไร ไม่เชื่อว่าสิ่งของศักดิ์สิทธิ์มีอาถรรพณ์ ดุจดังคลื่นพลังงานในแบบสื่อไร้สาย หรือเหมือนสายล่อฟ้า ถ้าฝนตกก็จะผ่าลงสู่พื้นดินที่เรียกว่า “ฟ้าผ่า” ในตอนนี้ฝนยังไม่ตกฟ้ายังไม่แลบไม่คะนองก็ไม่เป็นไร เมื่ออยากรู้ว่าสิ่งอัปมงคลเสนียดจัญไรอุบาทว์อัปรีย์จะหลั่งไหลเข้าสู่ตนเอง หรือว่าภรรยา บุตร บริวาร ทรัพย์สิน กิจการงาน นำความวิบัติฉิบหายมาให้ได้จริงหรือไม่ ก็ขอให้ลองเสี่ยงดูว่า ถ้าถึงคราววาสนาชะตาตกต่ำจะเกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นจริงหรือไม่ เป็นเรื่องในอนาคต ดังนั้น ถ้าหากใครมีประสบการณ์อย่างไรกรุณาเล่าให้ผมฟังด้วย จะได้จดบันทึกเรื่องราวไว้เป็นตำนาน
   สำหรับผมและคุณสมชาติ ฯ เมื่อได้บอกเล่าเรื่องราวให้ทราบจนหมดสิ้นแล้ว ก็หมดหน้าที่ผมมีแต่ความสบายอกสบายใจ หมดสิ้นความกังวลห่วงใยแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นกับใครเมื่อไหร่ อย่างไร จะมาโทษว่าผมและคุณสมชาติ ฯ ตลอดจน “องค์จตุคามรามเทพ” ว่าไม่บอกไม่เตือนคงจะไม่ได้ ขอบคุณสมาชิกที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนการฝนตกขี้หมูไหลที่สร้าง “พระจตุคามรามเทพปลอม” และ “มีดจตุคามรามเทพปลอม” ช่วยให้ผมได้มีโอกาสชี้แจงความจริงต่อทุกคนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของพวกลวงโลก และขอให้สมาชิกและผู้ที่สนใจทุกคนประสพแต่ความโชคดี


พลตำรวจโท   
 (สรรเพชญ  ธรรมาธิกุล)
               ๒๕  กรกฎาคม  ๒๕๕๓

คุณประภัสร ธีระพันธุ์
๙๒ หมู่ที่ ๗ ถนนกาญจนวนิช ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดาจังหวัดสงขลา
โทร.    ๐๘๖-๙๖๔-๗๕๕๕
   (๐๗๔) ๒๖๒-๓๒๒
บันทึกการเข้า
tiradej
Full Member
***
กระทู้: 117



อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2010, 08:03:52 PM »

บทความ ยาวมาก

เป็น WORD 2007 เลย copy มาให้เพื่อนสมาชิก อ่านแก้ขัดไป พลางๆ

เป็น ความรู้สู่ความจริง อีกเรื่องครับ  Smiley
บันทึกการเข้า
cat3200
Newbie
*
กระทู้: 8


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 17, 2010, 10:07:06 PM »

สุดยอดครับ
บันทึกการเข้า
พัฒน์พงษ์
Newbie
*
กระทู้: 32


patphong@live.com
อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 09, 2010, 11:47:23 AM »

ขอบคุณที่ให้ความรู้และความจริงเพิ่มครับ
บันทึกการเข้า
kemmachart
Full Member
***
กระทู้: 105



อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 30, 2010, 11:30:56 AM »

ใน web .suriyunjuntra เปิดไม่ได้ ต้องขอบคุณมากครับที่นำมาให้อ่านสร้างความกระจ่างต่อสมาชิกทุกท่าน  ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
Suzukiman
pungprakarn01
Hero Member
*****
กระทู้: 625



อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 08:46:13 PM »

ใน web .suriyunjuntra เปิดไม่ได้ ต้องขอบคุณมากครับที่นำมาให้อ่านสร้างความกระจ่างต่อสมาชิกทุกท่าน  ขอบคุณครับ

พี่เขมชาติ บางทีอ่านแล้วอาจจะไม่กระจ่าง แต่เปลี่ยนเป็นงงครับ (แบบว่าไม่เข้าใจ)....อิอิอิ
บันทึกการเข้า

<a href=http://download.cnet.com/YouTube-To-MP3/3000-2071_4-75810474.html >youtube to mp3</a>
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

B l a c k - R a i n V.2 by C r i p ~ Powered by SMF 1.1.16 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF XHTML | CSS   

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.194 วินาที กับ 22 คำสั่ง (Pretty URLs adds 0s, 0q)