ความศรัทธา ความเชื่อ และความเห็นส่วนตัว ที่ไม่ได้มาพร้อมปัญญา

เรื่องมันเป็นอย่างรัย ก็ต้องขอเล่าให้ฟังก่อนว่า ผู้ที่พูดรับข้อมูลมาอย่างรัยบ้าง โดยผมได้โทรไปคุยกับ นัทบางแค ว่า เรื่องมันเป็นอย่างรัย ก็ได้ความว่า

ผู้ที่กล่าวหา ได้เจอกับคุณนัท และได้ขอดูวัตถุมงคลที่แขวนอยู่นั่นก็คือ เหรียญแสตมป์ยันต์ข้างที่เลี่ยมไว้ รวมกับแผ่นจารเงินลักษณะด้านบนที่อยู่ด้านหลัง จึงเกิดสงสัยว่านี่คืออะรัย เอามาจากไหน คุณนัท เลยตอบไปว่าแผ่นจารของพ่อ แบ่งมาจากพี่วุฒิ u-ro ท่านนั้นเลยถามว่าแล้วรู้ได้ยังงัยว่าแท้ ไม่เคยเห็นมีในสาระบบเลย ไม่เคยเห็นท่านประธานอาศรมพูดถึงเลย น่าจะเป็นของเก๊ ไม่ดี แล้วท่านนั้นก็ได้ถามถึง ทุกข์ สุข ทั่วไปว่าเป็นอย่างรัยบ้าง คุณนัท เลยตอบไปว่าช่วงนี้แย่ครับ หลายปัญหา ประดังเข้ามารุมเร้า เงินทอง ขาดมือ เป็นบางครั้ง

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สมาชิกท่านนั้น จับต้น ชนปลาย มารวมกัน คือ เพราะคุณนัท ได้นำแผ่นจารเงินเก๊ มาแขวน ทำให้ชีวิตในช่วงนี้มีแต่สิ่งไม่ดีเข้ามา มากมาย ขนาดนี้ และได้เล่าสู่เรื่องนี้ ให้คนในกลุ่มท่านฟัง

นั่นคือเหตุ ที่ทำให้มีเรื่องนี้เกิดขึ้น วันที่ 3 มีค

เนื่องจาก ถูกพาดพิง ดังนั้นเลยขอชี้แจง แต่ไม่ใช่การแก้ตัว เพราะไม่จำเป็นต้องแก้ตัว อันใด

เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 18 มกราคม 2552 ผมได้ไปร่วมงานมีตติ้ง ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ในหมู่สมาชิกเว็บแห่งนี้ เพื่อพูดคุยพบปะสังสรรค์ ส่วนใหญ่ผมไม่รู้จักคุ้นเคยด้วย เนื่องจากอยู่ไกล จึงไม่ได้เคยไปร่วมพบปะกัน ตั้งแต่เป็นสมาชิกอยู่ในเว็บหนึ่งก่อนหน้านี้
หนึ่งในผู้ที่รู้จักคือ คุณนัทบางแค และในวันนั้นผมได้ติดวัตถุมงคลที่ได้สะสมไว้ ไปแบ่งให้ชมกันหนึ่งในนั้นคือ แผ่นจารเงิน นี้
และวันนั้น คุณนัทบางแค ได้ขอแบ่งไปหนึ่งแผ่น ในราคา 800 บาท ผมมีหลายแผ่นเลยแบ่งให้ไปหนึ่งชิ้นโดยให้เลือกเอาเอง คุณนัท ก็ได้เลือกไปหนึ่งแผ่น เหตุผล เนื่องจากเมื่อวางไว้ในฝ่ามือ แล้วรู้สึกเย็นๆ ไม่เหมือนอีกแผ่นที่ร้อนๆ เย็นๆ ผมก็ไม่ได้คิดอะรัย คือมีหลายแผ่น อยากได้ก็แบ่งไป จากนั้นผมได้เจอ คุณนัท อีกครั้งในงานนิทรรศการครั้งที่ 1 กพ.52 คุณนัทได้นำแผ่นเงินมาเลี่ยมติดกับเหรียญแสตมป์แขวนแล้ว ซึ่งในเวลานั้นก็ไม่ได้ พูดให้ฟังว่าชีวิต แย่ลงแต่อย่างใดหลังจากนำไปแขวนแล้ว หลังจากนั้น คุณนัท ก็ได้ติดต่อมาทางผมว่า คุณภัทร อยากจะขอแบ่งแผ่นจารเงินนี้สักหนึ่งแผ่นผมก็ยินดี แบ่งไปให้อีก 1 แผ่น โดยผมจะเหลืออีกแผ่นนึงที่เป็นแผ่นเล็กขนาดใกล้เคียงกัน ส่วนแผ่นจารที่เหลือ ผมได้นำมาม้วนเป็นลักษณะตะกรุดเงินเลี่ยมให้ลูกสาวผมแขวนมาถึง ณ วันนี้

หลังจากนั้นก็ได้มีโทรพูดคุยกันบ้าง มาช่วงครึ่งปีหลังแล้วที่ได้ทราบว่า คุณแม่ ของคุณนัทท่านป่วย ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็ยังให้กำลังใจกันไป แต่ คุณนัท ก็ไม่ได้กล่าวให้ฟังถึงปัญหาอื่นๆให้ฟัง นอกจากบอกว่าช่วงนั้นยุ่งมาก ไม่ค่อยมีเวลาเข้าเว็บเลย วิ่งงานลูกค้าตลอด ที่รับฟังมาก็มีประมาณนี้

ดังนั้น ผมเองจึงมาประมวลเหตุการณ์ดูว่า ข้อกล่าวหาของสมาชิกท่านนั้นมีเหตุ มีผล อย่างรัยบ้าง และมันเกี่ยวพันกันอย่างรัย ก็ยังไม่สามารถจะสรุปเป็นตามแนวทางที่กล่าวหามาได้ เนื่องจาก

1. แผ่นจารเงิน นั้น ผมเชื่อว่าเป็นของเก่าที่ท่านพ่อได้จารไว้ให้ลูกศิษย์บางท่านเก็บไว้ หรือบางทีจะเป็นส่วนที่เหลือจากการนำไปเป็นชนวนในการสร้างวัตถุมงคลยุคแรก ซึ่งผมพิจารณาจากรอยจาร บนแผ่นนั้น ซึ่งในคล้ายกับในผ้ายันต์ที่ผมเก็บสะสมไว้ และบางแผ่นค่อนละเอียดมาก และของจำพวกนี้ไม่ได้มีให้เห็นมากนัก ไม่ได้จดบันทึกไว้ในสาระบบ เป็นเรื่องเป็นราวกัน ยกตัวอย่างเช่นในการสร้างวัตถุมงคลจำพวกโลหะ ท่านพ่อจะมีการจารบนแผ่นเงิน นาค ทอง แล้วแต่พิธีและจำนวน เชื่อว่าไม่มีใครเก็บรวบรวมข้อมูลนี้ไว้ว่ามีกี่แผ่น แต่ละแผ่นมีลักษณะเป็นอย่างรัย จารแบบไหน ถ่ายรูปเก็บไว้ เชื่อได้ว่าไม่มีใครทำ
แต่ที่ผมเก็บสะสม เพราะดุจากวัตถุแล้ว รอยจารแล้ว คุ้นเคยกับที่เคยเห็น และมีความรู้สึกส่วนลึกที่ไม่เกี่ยวกับความอยากได้ บอกว่าสิ่งนี้ใช่แล้ว ผมเลยเก็บสะสม ของที่ไม่มีในสาระบบ เช่นนี้ไว้มากมาย

2. เหตุการณ์ ปัญหา ที่เกิดขึ้นกับคุณนัทบางแค มิได้เกิดขึ้นในทันทีหลังจากที่ได้รับแผ่นจารนี้ไป ถึงขนาดกลับชะตาชีวิตในทันที จนสามารถนำมาผูกให้เป็นเรื่องเดียวกันได้ ว่าชีวิตแย่เพราะแผ่นจารเงินเก๊หรือแท้ ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่เลย

3. เหตุใด คุณภัทร และ ลูกสาวผม จึงไม่ประสบปัญหาชีวิต ในลักษณะเดียวกับคุณนัท ทั้งๆที่ ลูกสาวผมก็แขวนติดตัวมาตลอดโดยไม่ได้ถอดเลย หรือว่าคุณภัทร มีแต่เนื่องจากผมไม่ได้รับข้อมูล ถ้ามีก็นำมาบอกได้ครับ จะได้วิเคราะห์ถูกครับ

4. ผมมีความสงสัยในใจที่หาคำตอบไม่ได้ว่า ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ทำไมหนอเหรียญปิดตาพังพระกาฬรุ่น 1 ที่คุณนัทแขวนอยู่ และวัตถุมงคลของท่านพ่อ ที่ท่านคิดว่าแท้ๆ นั้น ทำไมมิสามารถช่วยดลบันดาลให้ชีวิตไร้ซึ่งปัญหาได้หนอ เพียงแค่ว่าคุณนัท นำแผ่นเงินที่ยังไม่รู้เลยว่าเก๊หรือแท้ มาแขวนทำให้ชีวิตเปลี่ยนขนาดนั้น ข้อนี้ผมได้คุยกับ คุณนัท เหมือนกัน ผมว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริง นัท อย่าแขวนเลยเหรียญปิดตานั้นน่ะ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ขายไปซะเถอะ อย่าแขวนเลย เพราะแขวนไปก็ช่วยอะรัยไม่ได้

สรุปว่า ผมไม่สามารถหาความเกี่ยวพันของเรื่องนี้ได้ ถ้าสมาชิกกลุ่มดังกล่าวคิดว่ามันเกี่ยวพันกัน ก็สุดแล้วแต่ครับ เพราะไม่สามารถบังคับกันได้ แต่ท้ายที่สุดผมยังเชื่อมั่นว่า ผมไม่ได้หลอกขายของเก๊ ไม่ดี ให้กับเพื่อน โดยหวังผลเพียงแค่เงินไม่กี่ร้อยบาท ซึ่งผมยังเชื่อว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดี

ดังนั้น วันนี้ ผมได้รับซื้อคืนแผ่นจารนั้นคือจากคุณนัทบางแค และ ขอซื้อคืนจาก คุณภัทร แล้ว เพราะถ้าท่านไม่สบายใจ ก็ไม่ควรเก็บไว้ ผมสามารถเก็บไว้ได้ เพราะส่วนตัวก็ยังมีอยู่ ก็พกติดตัวอยู่ ก็ยังไม่ได้มีเรื่องร้ายๆใดเกิดขึ้นครับ

ท้ายสุดนี้ ผมอยากจะบอกท่านสมาชิกว่า เราศรัทธาท่านพ่อ ท่านเป็นเทพที่บันดาลสิ่งที่เราต้องการ แสวงหา ได้จริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องไม่เกินกรรมที่เราท่าน ได้สร้างกันไว้ ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ฝืนกฎนี้ไปได้ มันเป็น สัจธรรม ที่เราต้องเข้าใจ เพราะถ้าไม่เข้าใจ จะเหมือนหลายๆคน ที่ผมรู้จัก วันที่ขอท่านพ่อแล้วได้สมปรารถนา และกระแสสังคม ยังแรงอยู่ ก็นับถือและศรัทธาท่าน แต่วันที่พร ที่ขอไม่สมปราถนา หรือชีวิตเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลง อันเนื่องด้วยจากผลแห่งกรรมนั้นที่ทำมา เจ้ากรรมนายเวร ที่คอยทวงถามผลแห่งกรรมนั้นตามถึง ก็จะคิดหาจุดลงว่าเพราะเรามีของเก๊ ของปลอมไว้หรือไม่ และบางท่านคิดว่าท่านพ่อไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไม่ช่วยแล้ว ก็เลิกศรัทธา นับถือไปก็หลายคน

ขอบคุณท่านสมาชิก ที่อดทนอ่านมาจนจบ อาจจะเรียบเรียงไม่ดีนักเนื่องจากเขียนสดๆ และไม่ได้เป็นนักเขียน ถ้าตรงไหนไม่เข้าใจ หรืออยากสอบถามก็ โทรมาได้ครับ ยินดีครับ 0830669533

ขอแนบอีกรูป สมาชิกท่านที่ว่าไม่มีในสาระบบ ว่าเคยเห็นทุกแผ่น ทุกชิ้นในกล่องนั้นมั๊ย และถ้าหนึ่งในนั้นถ้าผมนำมาให้ท่านดู ท่านจะรู้อย่างรัยว่าเก๊หรือแท้ อันนี้อยู่ที่คนเอามาให้ท่านดู ใช่หรือไม่

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ความศรัทธา ความเชื่อ และความเห็นส่วนตัว ที่ไม่ได้มาพร้อมปัญญา (อ่าน 8768 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้